จาก “เด็กเส้น” สู่ “ตำนาน” : แฟร้งค์ แลมพาร์ด

ความน่าสนใจของ “แลมพาร์ด” อยู่ที่เส้นทางการเป็นนักฟุตบอลของเจ้าตัวที่แตกต่างจากนักฟุตบอลอังกฤษส่วนใหญ่ เพราะเติบโตมาจากครอบครัวที่มีฐานะอยู่แล้ว เป็นลูกชายของ “แฟรงค์ แลมพาร์ด ซีเนียร์” อดีตตำนานนักเตะของเวสต์แฮม ทำให้ได้โอกาสเรียนในโรงเรียนประจำที่เป็นของเอกชนเก่าแก่ซึ่งได้รับโอกาสทางการศึกษาสูง (ถ้าเปรียบเทียบกับเมืองไทย ก็โรงเรียนเอกชนอย่าง “อัสสัมชัญ”, “กรุงเทพคริสเตียน”)

จากโอกาสทางการศึกษา ทำให้เจ้าตัวสามารถมุ่งไปทางวิชาการ แถมยังสามารถสอบ “จีซีเอสอี” ที่เปรียบเสมือนการสอบเข้ามหาลัยด้วยคะแนนวิชาภาษาละตินเกรดเอเลยทีเดียว

 จาก "เด็กเส้น" สู่ "ตำนาน" : แฟร้งค์ แลมพาร์ด

 

ส่วนการเข้ามาเป็นนักฟุตบอลอาชีพ แน่นอนว่าต้องยอมรับว่าอิทธิพลของคณพ่อมีส่วนไม่น้อย เพราะได้เล่นทีมเยาวชนของ “เวสต์แฮม” ในสมัยที่คุณพ่อเป็นผู้ช่วยโค้ชของสโมสรอยู่ และได้รับสัญญาเป็นนักฟุตบอลอาชีพที่นั่นจนเวลาผ่านไปก็กลายเป็นนักเตะตัวหลักของทีมถึง แม้จะเคยถูก “สวอนซี” ยืมตัวช่วงสั้นๆในเวลานั้น โดยเจ้าตัวลงสนามให้ขุนค้อน 148 นัด ยิงไป 39 ประตู

ซึ่งกุนซือขุนค้อนตอนนั้นก็เป็นคุณลุงของเจ้าตัวอย่าง “แฮร์รี่ เร้ดแนปป์” ที่แม่ของ “แลมพาร์ด” เป็นพี่สาวฝาแฝดของภรรยาจ่าแฮร์รี่ พอคุณลุงและคุณพ่อย้ายออกจากทีม ทำให้เจ้าตัวอยู่ภายใต้ความกดดันของความเป็น “เด็กเส้น” ไม่น้อย

 

 จาก "เด็กเส้น" สู่ "ตำนาน" : แฟร้งค์ แลมพาร์ด

จาก “เด็กเส้น” สู่ “ตำนาน” : แฟร้งค์ แลมพาร์ด

อย่างไรก็ตาม คนส่วนใหญ่จะจดจำยอดมิดฟิลด์หมายเลข 8 ในสีเสื้อของเชลซีที่เจ้าตัวประสบความสำเร็จทุกอย่างกับสโมสร ไม่ว่าจะแชมป์พรีเมียร์ลีก 3 สมัย แชมป์เอฟเอ คัพ 4 สมัย แชมป์ลีก คัพ 2 สมัย แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และ ยูโรป้า ลีก อีกอย่างละ 1 สมัย ถ้าไปดูเหตุผลในการย้ายทีมมา “เชลซี” ก็ต้องยอมรับว่า “คุณพ่อ” มีส่วนไม่น้อย

เพราะหลังจาก “แฟรงค์ แลมพาร์ด ซีเนียร์” ออกจากขุนค้อน เจ้าตัวก็ตัดสินใจหาทีมใหม่ซึ่งเป็น “เชลซี” ที่ยื่นข้อเสนอมา 11 ล้านปอนด์ จากนั้น “ตำนานความสำเร็จ” จึงเริ่มต้นที่นี่

 

 จาก "เด็กเส้น" สู่ "ตำนาน" : แฟร้งค์ แลมพาร์ด

 

สำหรับ “แลมพาร์ด” เจ้าตัวไม่จำเป็นต้องดิ้นรนอะไรมากถ้าเลือกไปทางสายอาชีพอื่น เพราะมีทุกอย่างเพียบพร้อม แต่เมื่อ “ฟุตบอล คือคำตอบของชีวิต ก็เลยต้องมาพิสูจน์ตัวอีกครั้ง ถึงแม้ว่าจะมีลุงกับพ่อที่คอยสนับสนุนให้โอกาสมากแค่ไหน แต่เจ้าตัวก็ต้องพิสูจน์ด้วยตัวเอง

สุดท้ายจากวันนั้นถึงวันนี้ไม่มีอะไรต้องพิสูจน์อีกแล้ว เพราะ “แฟรงค์ แลมพาร์ด” จะกลายเป็นอีกหนึ่งตำนานของพรีเมียร์ลีกและสโมสรเชลซี

ถึงครั้งนึงจะได้รับ “โอกาส” มากกว่าใครเพื่อน แต่ก็แลกมาด้วยความกดดัน ความคาดหวังที่มากกว่าคนอื่นเหมือนกัน และวันนี้ทุกคนคงรู้คำตอบแล้วว่าเป็นยังไงครับ

 

ดูไฮไลท์คู่อื่น :: ไฮไลท์ฟุตบอลทั้งหมด
อ่านข่าวฟุตบอล :: ข่าวฟุตบอล
ติดตาม Facebook :: Facebook