บราซิลยุคใหม่ 4 ประเด็นกับฟอร์มแกร่งผงาดแชมป์โคปา อเมริกา2019
บราซิล ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางเอาไว้หลังจากรวมพลังประจัญบานคว่ำ เปรู 3-1
ที่สนามเอสตาดิโอมาราคาน่า ส่งผลให้ ” แซมบ้า ” ผงาดคว้าแชมป์ โคปา อเมริกา 2019 โดยเป็นแชมป์รายการนี้ครั้งแรกในรอบ 12 ปี ของประเทศ และเป็นสมัยที่ 9 ด้วย
เกมนี้ทัพ “เซลเลเซา” อาจจะต้องออกแรงเหนื่อยพอสมควรโดยเฉพาะในช่วง 20 นาที สุดท้าย กาเบรียล เซซุส โดนไล่ออก และทีมมีสกอร์นำแค่เพียง 2 – 1 เท่านั้น แต่ด้วยการเล่นที่มีระเบียบ และช่วยเหลือกันและกันทำให้ บราซิล สามารถรับมือกับ เปรู ได้อย่างยอดเยี่ยม
สุดท้ายแล้วด้วยกึ๋นการแก้เกมของ ติเต้ ที่ตัดสินใจถอด โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ออกพร้อมกับส่ง ริชาร์ลิซอน ลงเล่นในช่วง 15 นาทีสุดท้ายก็ส่งผลในแง่บวกเป็นอย่างมาก เมื่อสตาร์ เอฟเวอร์ตัน ซัดจุดโทษเป็นประตูตอกฝาโลงคู่แข่งส่ง บราซิล เถลิงแชมป์อย่างยิ่งใหญ่สมการรอคอย
- เชซุส มีส่วนกับทุกจังหวะสำคัญของนัดชิง
กาเบรียล เซซุส มีส่วนสำคัญกับ 4 ประตูสุดท้ายของ บราซิล โดยยิงไป 2 ประตู และ 2แอสซิสต์ นอกจากนี้เจ้าตัวยังถือว่าทำผลงานได้อย่างโดดเด่นกับการเล่นในนัดชิงชนะเลิศ ที่ปะทะกับ เปรู เมื่อวันอาทิตย์ที่ 7 กรกฏาคมที่ผ่านมา ( เช้าตรู่วันจันทร์ตามเวลาประเทศไทย )
จังหวะแรกที่มีความสำคัญมากๆ ก็คือเขาโชว์ทักษะเหนือชั้นในการหลอกล่อแนวรับ เปรู ก่อนที่จะเปิดบอลสุดคมกริบไปที่เสาสองซึ่ง เอแวร์ตอน ยืนแต่งตัวหล่อรอบอลอยู่โล่งๆ ก่อนที่จะส่งบอลเข้าไปซุกตาข่ายให้กับทัพ “เซเลเซา” ขึ้นนำ 1 – 0 หลังจากที่โดนตีเสมอในช่วงท้ายเกม แต่ เซซุส ยังสามารถช่วยทีมได้ขึ้นนำในช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก ซึ่งถือเป็นการได้ประตูในจังหวะสำคัญมากๆ
อย่างไรก็ตามหัวหอก ” เรือใบสีฟ้า “แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต้องมาเจ็บปวดหัวใจจากจังหวะการเข้าปะทะซึ่งดูแล้วไม่น่าจะมีอะไร แต่กรรมการมองว่าเป็นจังหวะอันตรายทำให้เขาได้ใบเหลืองที่ 2 เป็นใบแดง ซึ่งตอนนั้นเวลาเพิ่งผ่านไปเพียง 7 0 นาทีเท่านั้น
หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้แฟนบอล ทีมชาติบราซิล คงรู้สึกเห็นใจ เซซุส มากๆเพราะนักเตะรับไม่ได้กับการโดนไล่ออกและทำให้ ” แซมบ้า “ต้องเสียเปรียบตัวผู้เล่น และถึงขนาดเข้าไปนั่งร้องไห้ภายในอุโมงค์สนาม เดชะบุญที่จบเกม บราซิล ได้แชมป์มาครองไม่งั้นคงตกอกชกตัวโทษว่าเป็นความผิดของตัวเองที่ทำให้บ้านเกิดชวดความสำเร็จ
2.อลีสซง ฟอร์มเหนียวหนึบต่อเนื่อง
อลีสซง เบ็คเกอร์ ยังคงรักษาฟอร์มการเล่นที่เหนียวหนึบทั้งกับ ลิเวอร์พูล และทีมชาติบราซิล โดยเจ้าตัวทำผลงานชนิดที่กาวตราช้างยังต้องเรียกพี่เพราะก่อนจะลงเล่นในเกมนัดชิงชนะเลิศ เจ้าตัวไม่ต้องปวดหลังก้มลงไปเก็บลูกบอลในตาข่ายแม้แต่ครั้งเดียว
อย่างไรก็ตามแมตซ์ชิงความเป็นเจ้าลูกหนังดินแดนอเมริกาใต้ที่สนามเอสตาดิโอ มาราคาน่า นั้น อลีสซง ต้องเสียสถิติเมื่อทัพ ” แซมบ้า “เสียจุดโทษช่วงท้ายครึ่งแรกและเป็น เปาโล เกร์เรโร่ หัวหอกจอมเก๋า จัดการเปิดซิง อดีตนายด่าน โรม่า กระนั้นบทสรุปสุดท้ายเจ้าตัวช่วยชาติคว้าแชมป์โคปา บนแผ่นบ้านเกิดได้สำเร็จ แม้จะเสีย 1ประตูก็ถือว่าคุ้มค่า
3.อัลเวส ขิงยิ่งแก่ยิ่งเผ็ด
หลายคนมองว่า ดาเนี่ยล อัลเวส อายุอานาปาเข้าไป 36 ปีแล้วจะน่าจะผ่านช่วงจุดสุดยอดของการเล่นฟุตอบอลไปแล้ว แต่การติดธง “เซเลเซา “เหมือนเป็นการให้เกียรติเจ้าตัวในฐานะผู้เล่นจอมเก๋า แต่ดูเหมือนว่า ติเต้ เทรนเนอร์ มองว่า อัลเวสยังคงมีดีไม่งั้นคงไม่มอบปลอกแขนกัปตันทีมให้กับเขาแน่นอน
4.บราซิลยุคใหม่สไตล์ใหม่
ใครที่เป็นคอลูกหนังหลังยุคเก่าๆ แน่นอนว่าเคยได้เห็นลีลาแซมบ้าในยามที่ บราซิล ลงสนามฉะนั้นเมื่อเวลาที่ได้เห็นบรรดานักเตะเลือด ” แซมบ้า ” ลงเล่นทั้งแฟนบอลบนอัฒจันทร์และที่หน้าจอโทรทัศน์หรืออาจจะหน้าจอคอมพิวเตอร์ ทุกๆ คนคาดหวังเห็นลีลา บราซิล