ประวัติ เจสซี่ ลินการ์ด (Jesse Lingard)
ประวัติ เจสซี่ ลินการ์ด มิดฟิลด์ตัวรุก ทีมชาติอังกฤษ วัย 28 ปี จากสโมสร “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ถูกปลุกปั้นขึ้นมาจากอะคาเดมี่ของปีศาจแดงอย่างแท้จริง จนกลายเป็นหนึ่งในลูกกรอกคะนองร่วมรุ่นเดียวกันกับกองกลางค่าตัวแพงที่สุดในสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่าง พอล ป็อกบา ซึ่งในตอนนี้ถูกทีม “ขุนค้อน” เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ดึงตัวไปร่วมทีมตั้งแต่เดือนมกราคม ค.ศ. 2021 ในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะหน้าหนาวที่ผ่าน จนกลับไปมีโอกาสร่วมงานกับอดีตกุนซือของตนอย่าง เดวิด มอยส์ และโชว์ฟอร์มการเล่นออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม พาให้สโมสรเวสต์แฮมขึ้นไปอยู่ลุ้นพื้นที่ไปเล่นฟุตบอลยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกได้เต็มตัว จนทำให้เจสซี่ ลินการ์ด ตกเป็นที่หมายตาของสโมสรยักษ์ทั่วโลกจากการลงเล่นไปเพียงแค่ 9 นัด
ข้อมูลส่วนตัว ประวัติ เจสซี่ ลินการ์ด
ชื่อเต็ม : เจสซี่ เอลลิส ลินการ์ด (Jesse Ellis Lingard)
วันเกิด : 15 ธันวาคม ค.ศ. 1992 (28 ปี)
สถานที่เกิด : ประเทศอังกฤษ
ส่วนสูง : 1.75 เมตร (5 ฟุต 9 นิ้ว)
สโมสรปัจจุบัน : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (ม.ค. 2021 ถูกเวสต์แฮม ยูไนเต็ด ยืมตัวถึงสิ้นฤดูกาล)
ตำแหน่งที่เล่น : กองกลางตัวรุก สามารถขยับมาเล่นเป็นปีกได้
สวมเสื้อเบอร์ : 14
ลงเล่น : ปี 2009 – ปัจจุบัน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลงเล่น 210 นัด
เจสซี่ ลินการ์ด เป็นเด็กน้อยที่เกิดและเติบโตขึ้นในเมืองแมนเชสเตอร์ โดยได้เข้าร่วมฝึกซ้อมในอคาเดมี่ของสโมสรปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตั้งแต่อายุเพียงแค่ 7 ขวบ การลงเล่นของเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มบนพื้นหญ้าในสนาม ในวัยเด็กเขามีจุดอ่อนคือรูปร่างตัวเล็กกว่าเพื่อนรุ่นเดียวกัน แต่ก็มีสิ่งที่ทดแทนด้วยการใช้ทักษะการเล่นฟุตบอลที่ชาญฉลาด และการขยับตัวเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว หาช่องว่างในการรับและส่งบอลได้อย่างดีเยี่ยม
ตลอดระยะเวลา 5 ปี ก่อนที่ เขาจะถูกเรียกตัวติดทีมชุดใหญ่ของสโมสร เขาต้องถูกเซอร์ อเล็ก เฟอร์กูสัน บรมกุนซือผู้เป็นตำนานของทีม ปล่อยยืมตัวเพื่อไปเก็บประสบการณ์กับทีมต่าง ๆ อยู่หลายทีมทั้งในพรีเมียร์ลีก อังกฤษและลีกแชมเปี้ยนส์ชิพ อังกฤษ ไล่ตั้งแต่ เลสเตอร์ ซิตี้, เบอร์มิ่งแฮม ซิตี้, ไบรตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน, ดาร์บี้ เคาร์ทตี้
และลินการ์ด ได้ถูกกล่าวถึงว่าเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงคนหนึ่งของทีมปีศาจแดงอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากถูกหลุย ฟัลเกา ผู้จัดการทีมในขณะนั้น ส่งลงมาชัดประตูชัยในช่วงต่อเวลาพิเศษในศึกการแข่งขันฟุตบอล เอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศกับคริสตัล พาเลท จนสามารถคว้าแชมป์ไปได้ในฤดูกาล 2015 -2016
ในฤดูกาลถัดมา (2016-2017) ลินการ์ด ได้กลับมาที่สนามเวมบลีย์อีกครั้งกับการแข่งขันฟุตบอลรายการกุศล ก่อนเปิดฤดูกาล ในฟุตบอลคอมมิวนิตี้ซิล และสามารถทำประตูได้ด้วย ลินการ์ดจึงเริ่มเป็นที่กล่าวขานในกลุ่มสาวกปีศาจแดงทันทีว่าในฤดูกาลนี้ ไอ้หมอนี่แหละ ที่จะเข้ามาเป็น “นิวส์ โรนัลโด้”
ภายใต้การคุมทีมของผู้จัดการทีมคนใหม่อย่าง โจเซ่ มูรินโญ่ ลินการ์ดได้ลงเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรุก ยืนอยู่ด้านหลังกองหน้าตัวเป้าบ้าง สลับฉีกออกไปด้านข้างเป็นปีกบ้างในบางนัด แต่นั้นก็ไม่ใช่อุปสรรคของดาวรุ่งทีมชาติอังกฤษรายนี้ เนื่องจากเขานั้นสามารถลงเล่นได้ด้วยเท้าทั้งสองข้างทั้งซ้ายและขวา
ด้วยทักษะการจ่ายบอลที่ชาญฉลาด เขาได้ใช้ทักษะทั้งหมดที่มีปั่นป่วนในแนวรับจนต้องปวดหัวเลยทีเดียว ทั้งการแอสซิตให้เพื่อนทำประตูและลากเลี้ยงเดี่ยวไปยิงเองก็ทำได้ในบางจังหวะ ด้วยการประสานงานกับเพื่อนร่วมรุ่นเดียวกันที่เล่นมาอย่างยาวนานทั้ง พอล ป็อกบา และมาคัส แรชฟอร์ด ทำให้เข้าขากันเป็นอย่างดี รวมไปถึงเมื่อมีการทำประตูเกิดขึ้น ผู้เล่นทั้งสามจะมาคอยแสดงความยินดีให้แก่ซึ่งกันและกันด้วยการเต้นเป็นทีมร่วมกับป็อกบา และการเต้นของลินการ์ดเป็นที่จับตามองของแฟนบอลทั่วโลก จนเป็นที่มาของเจ้าของฉายา “เดอะ แด๊ป” ร่วมกันคว้าแชมป์ฟุตบอล ยูโรป้า ลีก ในฤดูกาลนั้น
ในฤดูกาล 2017 – 2018 เขาได้โชว์ฟอร์ดอันน่าทึ่งเมื่อ ซัดประตูไปได้ถึง 8 ประตู จากการลงเล่นในช่วง 10 นัดสุดท้ายของฤดูกาล
ฤดูกาลถัดแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยการนำทัพของลินการ์ด ทีมปีศาจแดงจบฤดูกาลด้วยการเป็นรองแชมป์พรีเมียร์ลีก พร้อมทั้งการปลดผู้จัดการทีม “เดอะ สเปเชี่ยววัน” ออกจากทีม
พร้อมกับการเข้ามาของอดีตตำนานกองหน้าปีศาจแดงอย่าง โอเล่ กุนนา โซลชา ซึ่งในช่วงปีแรกที่ผู้จัดการทีมคนใหม่เข้ามาทำหน้าที่ตำแหน่งของลินการ์ดกก็ยังไม่มีผลกระทบแต่อย่างใด เขายังคงได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจให้ลงเล่นเป้นตัวจริงอยู่เสมอ พร้อมทั้งโชว์ฟอร์ดได้ดีบ้าง ผิดพลาดพลาดบ้าง
แต่ในฤดูกาล 2019 – 2020 นับว่าเป็นปีที่เรวร้ายของกองกลางดาวรุ่งรายนี้เลยก็ว่าได้ เมื่อเขาได้มีปัญหาภายนอกสนามจนกระทบกับฟอร์มการเล่นภายในทีมส่งผลให้ฟอร์มการเล่นไม่สม่ำเสมอ อีกทั้งยังมีอาการบาดเจ็บจนต้องพักแข้งไป จึงทำให้เขานั้นได้หลุดตำแหน่งตัวจริงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากการเข้ามาของบรูโน่ เฟอร์นันเดส กองกลางทีมชาติโปรตุเกส ที่ย้ายเข้ามาสู่ทีมในช่วงตลาดหน้าหนาวเดือนมกราคม ปี ค.ศ. 2020 ทำให้ช่วยยกระดับทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดขึ้นมาอย่างมาก และเมื่อลินการ์ดหายจากอาการบาดเจ็บกลับมา ก็ไม่มีตำแหน่งที่ว่างตัวจริงในสนามให้เขาแล้ว
เขาต้องตกเป็นตัวสำรองอยู่หลายต่อหลายนัด ได้ลงเล่นเพียงไม่กี่เกมส์ในเกมส์บอลถ้วยเท่านั้น และไม่สามารถโชว์ฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมกลับมาได้เลย ซึ่งแฟนบอลหลายคนคิดแล้วว่าซัมเมอร์นี้ ลินการ์ดต้องจากไปจากทีมอย่างแน่นอน แฟนบอลบางกลุ่มยังมองเขาเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งภายในทีมเท่านั้น
แต่น้าโอเล่ ยังคงเลือกที่จะเก็บเขาไว้ในฤดูกาล 2020 – 2021 แต่ได้เป็นเพียงตัวสำรองเท้านั้น เนื่องจากตำแหน่งกองหลางภายในทีม มีมากเกินไป และนักเตะทุกคนต่างทำผลงานออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้ง บรูโน่ เฟอร์นันเดส นักเตะตัวหลักที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขาดไม่ได้แม้แต่นัดเดียว สก็อต แม็คโทรมิเนย์ และ เฟร็ด ต่างก็ทำผลงานเมื่อลงเล่นคู่กันได้อย่างยอดเยี่ยม ส่วนคู่ซี้ของลินการ์ด อย่างพอล ป็อกบา ด้วยตำแหน่งนักเตะที่แพงที่สุดภายในทีมทำให้เขาต้องได้ลงเล่นในตำแหน่งตัวจริงที่ขยับออกมาเป็นปีกขวา ส่วนตัวสำรองอย่างดอนนี่ ฟาน ดอร์ เบค ที่พึ่งจะย้ายเข้ามาในฤดูกาลนี้ ก็คงต้องนั่งอยู่บนม้านั่งสำรองรอคอยโอกาสเช่นเดียวกันกับลินการ์ด ทั้งยังมีอีกสองกองกลางจอมเก๋าของทีม นั้นก็ ฆวน มาต้าและเนมานย่า มาติช ที่เป็นเพียงอะไหล่ของนักเตะวัยรุ่นเท่านั้น
ทำให้ เจสซี่ ลินการ์ด ต้องหาทีมใหม่เพื่อได้รับโอกาสในการลงเล่นที่มากขึ้น จึงกลายเป็น เวสต์แฮม ยูไนเต็ด โดยการคุมทีมของเดวิส มอยส์ อดีตผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ติดต่อยื่นขอยืมตัวเจสซี่ ลินการ์ดมาร่วมทัพในช่วงตลาดหน้าหนาวเดือนมกราคม ปี ค.ศ. 2021 และตั้งแต่ย้ายไปร่วมทัพขุนค้อน ลินการ์ดก็ได้รับโอกาสลงสนามอย่างต่อเนื่อง
ทำให้โชว์ฟอร์มออกมาได้อย่างสุดยอด โดยสามารถยิงประตูได้ตั้งแต่นัดแรกที่ลงสนาม และมีส่วนร่วมกับทีมอย่างมากจนพาเวสต์แฮมลุ้นพื้นที่ไปเล่นฟุตบอลถ้วยยุโรปอย่างเต็มตัว จนทำให้หลายต่อหลายคนเริ่มจับตาดูนักเตะวัย 28 ปี ที่เป็นเจ้าของฉายา “ดาวรุ่งตลอดกาล” ว่าการที่ถูกล้อเลียนว่าเป็นมหาเทพลินการ์ด หรือ เมสซี่ ลินการ์ด อาจจะไม่ใช่เพียงแค่คำล้อเล่นอีกต่อไป เนื่องจากสถิติลงสนามเพียงแค่ 10 นัด แต่ซัดไป 9 ประตูและจ่ายให้เพื่อนยิงอีก 4 แอสซิสต์ จนเหล่าทีมยักษ์ทั่วยุโรปพร้อมโหมรุมแย่งตัวเพลเมคเกอร์ตัวจี๊ดรายนี้ ทั้ง เรอัล มาดริด และ ปารีส แชง เฌอแมงส์ ส่วนน้าโอเล่เองก็ต้องการให้ลินการืดกลับมาค้าแข้งในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ดต่อไป
แต่ลินการ์ดเอง แปะท่าว่าอยากจะค้าแข้งต่อไปกับเวสต์แฮม ยูไนเต็ด เนื่องจากผู้คนในที่แห่งนี้ ต่างชื่นชอบ และต้อนรับเขาเป็นอย่างดี มองเขาว่าเป็นความหวังใหม่ของทีมด้วยซ้ำ คงต้องติดตามกันต่อไปว่าอนาคตของ เจสซี่ ลินการ์ด ต่อไปจะเป็นอย่างไร
ผลงานในทีมชาติ เจสซี่ ลินการ์ด
เจสซี่ ลินการ์ด ติดทีมชาติอังกฤษชุดอายุต่ำกว่า 18 ปีและ 21 ปี ตามลำดับ และล่าสุดเมื่อโชว์ฟอร์ดได้ดีกับต้นสังกัดปัจจุบัน จึงถูกแกรเร็ธ เซาร์เกต เรียกติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ไปลุยศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือกที่ผ่านมา และทำผลงานได้อย่างดีเยี่ยม