ผมไม่สนใจเรื่องนั้น !! คล็อปป์ว่ายังไงหลังหลายคนฟันธงแชมป์ชัวร์
เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมจ่าฝูงของพรีเมียร์ ลีก อย่างลิเวอร์พูล กล่าวว่าตนไม่สนใจเรื่องที่หลายคนพูดกันว่าการลุ้นแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำฤดูกาลนี้มันจบลงแล้ว แม้ว่าตอนนี้ “หงส์แดง” จะมีคะแนนมากกว่า เลสเตอร์ ซิตี้ ที่เป็นรองจ่าฝูงถึง 13 คะแนนเข้าไปแล้วก็ตาม
ถึงแม้หลายคนจะมองว่าการไปเยือน เลสเตอร์ ที่ คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 26 ธันวาคม ที่ผ่านมา จะเป็นงานยากของ ลิเวอร์พูล แต่กลับกลายเป็นว่าทีมของ คล็อปป์ สามารถเอาชนะไปได้แบบขาดลอย 4-0 จนทำให้พวกเขาเก็บเพิ่มเป็น 52 คะแนน จากการลงเล่น 18 เกม โดยนอกจากจะเพิ่มช่องว่างกับ เลสเตอร์ ได้แล้วนั้น ลิเวอร์พูล ก็ยังลงเล่นน้อยกว่า 1 เกมด้วย จนทำให้หลายคนมองว่ายอดทีมแห่งถิ่น แอนฟิลด์ จะได้แชมป์ลีกในซีซั่นนี้ไปครองแน่นอนแล้ว

ผมไม่สนใจเรื่องนั้น !! คล็อปป์ว่ายังไงหลังหลายคนฟันธงแชมป์ชัวร์
“พูดกันตามตรงนะ ผมสนใจเรื่องนั้น (เรื่องที่ว่าการลุ้นแชมป์มันจบลงแล้ว) น้อยมากๆ นี่เป็นเกมที่ดี เราจบเกมได้อย่างแข็งแกร่ง และทำประตูที่สวยๆ ได้ แต่เราไม่สนใจเรื่องพวกนั้นเลย เรามุ่งมั่นกับนัดต่อไปเท่านั้น เรายังมีจุดที่สามารถปรับปรุงให้ดีขึ้นได้ อย่างเช่นเรื่องการบริหารเกม, การเล่นเกมรับในครึ่งแรก แต่เราก็สามารถเพลิดเพลินกับชัยชนะที่ยอดเยี่ยมอย่างนี้ได้ ส่วนพรุ่งนี้เราก็จะเริ่มต้นกันใหม่อีกครั้ง” กุนซือชาวเยอรมัน ระบุ
ทั้งนี้ การทิ้งห่าง เลสเตอร์ ถึง 13 แต้ม ทำให้ ลิเวอร์พูล ทาบสถิติการที่จ่าฝูงมีคะแนนมากกว่ารองจ่าฝูงหลังผ่าน บ็อกซิ่ง เดย์ ไปแล้ว เยอะที่สุดในประวัติศาสตร์ของ พรีเมียร์ลีก เทียบเท่ากับที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เคยทำได้เมื่อซีซั่น 1993-94 ด้วย อย่างไรก็ตาม คล็อปป์ ก็ไม่ได้มองว่ามันเป็นสถิติที่ยอดเยี่ยมมากนัก “ผมสามารถเขียนเรื่องต่างๆ ขึ้นมาเองก็ยังได้ ในประวัติศาสตร์ของวงการฟุตบอลอังกฤษมันไม่เคยมีครั้งไหนที่ทีมซึ่งนำห่างขนาดนี้โดนแซงจนชวดแชมป์เนี่ยนะ (ในฤดูกาล 1993-94 แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ได้แชมป์ลีกไปครองเหมือนกัน) ส่วนตัวแล้วผมมองว่ามันเป็นสถิติที่ไม่ได้ดีสักเท่าไหร่ ดังนั้นทำไมเราถึงควรจะต้องคิดเกี่ยวกับมันด้วย ?”
“ตอนนี้เราสนใจเฉพาะเกมต่อไปเท่านั้น ในอีก 5 นัดหลังจากนี้ของเรา (ในทุกรายการ) เราต้องเจอกับทั้ง วูล์ฟส์, เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด, เอฟเวอร์ตัน, ท็อตแน่ม และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งถ้าพูดกันตามตรงนะ ส่วนตัวแล้วผมมองว่ามันไม่มีเกมไหนเลยที่มันรู้ผลตั้งแต่แรกแล้ว (สื่อว่ายังไม่ชัวร์ว่า ลิเวอร์พูล จะชนะเกมเหล่านั้น) เราจะพยายามทำให้มั่นใจว่าเราจะพร้อมรับมือเกมเหล่านั้น จำนวนแต้มที่นำอยู่มันไม่ได้มีความหมายกับเราเลย”