ถ้าฝันร้ายของคุณคือการฝันเห็นวิญญาณร้าย แต่ฝันร้ายของกองหลังในยุคปี 2000 คือการโดนนักเตะหมายเลข 14 วิ่งฉีกหนีเขาไปยิ่งกระตูอย่างไร้ปราณี หากคุณเป็นกองหลังที่ต้องเผชิญหน้ากับเขาเพียงแค่คุณเผลอกระพิบตาภาพต่อไปของคุณคือจะเห็นเพียงแผ่นหลังหมายเลข 14 อยู่ไกลๆ ที่คุณทำได้เพียงดมฝุ่นจากฝีเท้าและภาวนาว่าอย่าให้เขายิ่งเข้าเท่านั้นเอง
.
.
เธียรี่ อองรี เขาคือตำนานและกองหน้าที่พร้อมจะทำลายคู่แข่งได้ทุกเมื่อ อองรี ไม่ได้แค่สร้างชื่อเสียงให้กับอาร์เซน่อลอย่างเดียว แต่กับทีมชาติฝรั่งเศสเขาได้ชื่อว่าเป็นกองหน้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุด และยังได้รับเมื่อปี 2008 ได้รับการโหวตจากชาวอังกฤษ 32,000 กว่าคน ว่าให้เขาเป็นนักเตะที่ดีที่สุด นับตั้งแต่ก่อตั้งพรีเมียร์ลีกมาเลยทีเดียว
มามานูน เลกาเต้ อดีดเพื่อนร่วมทีมของอองลี ยังจำได้ดีของสไตล์การเล่นในวัยเด็ก โดยเขาเล่าไว้ว่า “มีอยู่ 3 สิ่งที่ผมจำได้เกี่ยวกับอองรี อย่างแรกก็คือ เขาใช้เทคนิคการเล่นได้ดี สองคือความเร็วที่ยอดเยี่ยม และเหนือสิ่งอื่นใดคือทรรศนะคติที่สุดยอด”
แม้จะมีข้อด้อยแต่เพียงทักษะการใช้ขาของเขา เขาก็ทำประตูอย่างเป็นกอบเป็นกำมากมาย 77 ลูก จากการลงสนาม 27 เกม ของอองรี ที่สโมสรวิลลี่ ชาติลอง แต่เพียงวัย 12 ปี อองรีถูกห้ามลงเล่นกับเด็ก 14-15 ปี จนเป็นเหตุให้ไม่ได้ลงเล่นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ครอบครัวไม่พอใจอย่างมาก
.
.
จนถึงวัน 16 ปีเขาก็ถูกค้นพบโดยอาร์แซน เวนเกอร์ และก็ได้พาเขามาอยู่ที่โมนาโก โดยเขาเล่นให้ทีมเยาวชนแห่งนั้นเป้นเวลา 1 ฤดูกาล ต่อมาพ่อของเขาโน้มน้าวให้ไปเล่นกับทีมเรอัล มาดริดแต่อองรีไม่ต้องการย้ายไปที่นั่น และทั้งคู่ก็ทะเลาะกันจนถึงขั้นตัดขาดความสัมพันธ์ความเป็นพ่อลูก การตัดสินใจในครั้งนั้นทำให้เด็กหนุ่มอายุ 17 ปี ได้เล่นอาชีพครั้งแรกในโมนาโก อาร์แซน เวนเกอร์ได้เจียระไนอองรีจนเป็นปีกซ้ายอันตรายที่สุดของโมนาโก และอันตรายที่สุดในลีกเอิง
.
.
การยิง 7 ลูกใน 9 เกมทำให้เขาเป็นที่สนใจของยุโรป สุดท้ายทีมที่ได้ตัวเขาไปคือ ยูเวนตุส ที่นั่นอองรีไม่เคยโชว์ฟอร์มได้อย่างที่เคยเล่นเลย เป็นฤดูกาลที่แสนเลวร้ายที่สุดแม้จะได้ร่วมเล่นกับเพื่อนร่วมชาติอย่าง ซีดาน ก็ตาม
.
.
จนกระทั่งอาร์แซน เวนเกอร์ได้ดึงตัวเขากลับมาแต่คราวนี้ เวนเกอร์ ได้จับเขามามาเป็นกองหน้าเพื่อมาเป็นตัวยิงประตูให้กับอาร์เซน่อลแทนที่ อเนลก้า ที่เพิ่งออกไป เขาได้กลายเป็นหน้าเป้าแทนที่จะเป็นปีกซ้ายที่เขาถนัดจนฟอร์มการเล่นของเขาหดหายไป และแม้จะขอไปเล่นในตำแหน่งที่ถนัดหรือแม้แต่แฟนๆก็ออกเสียงก็เช่นกัน แต่ทว่าเวนเกอร์เป็นเพียงคนเดียวเท่านั้นที่มองออกว่าเพชรเม็ดนี้ยังไงก็คือเพชร สุดท้ายอองลีก็ปรับตัวตามที่ได้รับมอบหมาย
.
.
เมื่อเวลาผ่านไป อองรี ก็เล่นเข้าขากับ เดนนิส เบิร์กแคมป์ มากขึ้นเรื่อยๆ จนเขาได้กลายเป็นดาวซัลโวของลีกภายใน 3 ฤดูกาล และหลังจากนั้นเขาก็ไม่เคยฟอร์มแย่อีกเลย การเลี้ยงบอลฉีกกองหลังของเขามีประสิทธิภาพมากกว่าการเลี้ยงบอลผ่านฟลูแบ็คอย่างเห็นได้ชัด และการที่เข้าได้ก้าวมาที่จุดสูงสุดของชีวิต ต้องยกเครดิตให้อาร์แซน เวนเกอร์ และฤดูกาลที่พีคที่สุดของอองลีคือปี 2003-2004 30ประตู ใน 37 เกม แต่โชคดีที่ตอนนั้นโรนัลโด้กับเมสซี่ยังไม่โหด ทำให้เขาได้รับดาวซัลโวสูงสุด 2 ฤดูกาลติด
สมัยที่เขายังโลดแล่นอยู่บนสนามหญ้าเรียกได้ว่าไม่มีใครยิ่งใหย่ไปกว่าเขาในปี 2003-2006 เขาเกือบที่จะได้รับรางวัลบัลงลงดอร์ แต่ถึงแม้จะไม่ได้รับรางวัลนั้นทุกคนก็ยกย่องเขาว่าเป็นหนึ่งในนักเตะที่เก่งที่สุด