การแข่งขัน ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่ระหว่าง “สิงห์บลู” เชลซี พบกับ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ที่สนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน 2562

 

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

 

เปิดเกมมา 14 นาที “หงส์แดง” มาได้ฟรีคิกหน้าเขตโทษระยะ 18 หลา โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ไหลสั้นให้ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ วิ่งกดด้วยขวาบอลพุ่งเสียบเสาสุดงามให้ ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ 1-0

นาทีที่ 24 เจ้าถิ่นน่าจะได้ประตูตีเสมอแบบสุดๆ อันเดรส คริสเตนเซ่น จ่ายยาวจากแนวรับให้ แทมมี่ อับราฮัม ได้หลุดเดี่ยวเข้าไปดวลกับ อาเดรียน แต่กลับยิงไปติดเซฟเหลือเชื่อ

สองนาทีต่อมา เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า ส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายจากจังหวะชุลมุนได้สำเร็จ แต่สัญญาณ VAR แจ้งเตือนว่า เมสัน เมาท์ ยืนอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าในจังหวะก่อนหน้านั้นทำให้พลาดได้ประตูตีเสมอ

นาทีที่ 30 ทีมเยือนมาได้ฟรีคิกริมเส้น เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เขี่ยเปลี่ยนจุดให้ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เปิดโด่งไปหน้าประตู โรเบอร์โต้ ฟิร์มิโน่ เทกตัวโขกเต็มหัวส่งบอลตุงตาข่าย ลิเวอร์พูล หนีเป็น 2-0 พร้อมจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง นาทีที่ 59 เจ้าบ้านได้ลุ้นทันทีจากลูกเตะมุม เมสัน เมาท์ เปิดโด่งเข้าไปในเขตโทษ แนวรับลิเวอร์พูลสกัดไม่ดีไปเข้าทาง เอ็นโกโล่ ก็องเต้ กดด้วยซ้ายหลุดเสาออกไปนิดเดียว

นาทีที่ 70 แนวรับลิเวอร์พูลพลาดท่าปล่อยให้ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ได้พลิกตัดเข้าในก่อนปั่นด้วยขวาบอลพุ่งเสียบเสาเด็ดขาดให้ เชลซี ตีไข่แตกไล่มาเป็น 1-2

ท้ายเกมนาทีที่ 88 เจ้าถิ่นได้ลุ้นตีเสมออีกครั้ง มาร์กอส อลอนโซ่ เปิดโด่งเข้าเขตโทษ มิตชี่ บัตชัวยี่ ตัวสำรองได้โขกเปลี่ยนทางแต่บอลผ่านหน้าประตูออกหลังไป

จบเกม “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล บุกเอาชนะ เชลซี ไปได้แบบลุ้นเหนื่อย 2-1 เก็บสามแต้มสุดล้ำค่า พร้อมชนะรวด 6 นัดติดต่อกัน นำเป็นจ่าฝูงด้วยการมี 18 คะแนน

 

ทีมหงส์แดงลิเวอร์พูลยังคงเดินหน้าคว้าชัยชนะอย่างต่อเนื่อง เมื่อบุกสอยทีมของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ถึงถิ่น 2-1 ถือเป็นการสานต่อผลการแข่งขันอันยอดเยี่ยมที่พวกเขากำชัยทุกเกมตั้งแต่เปิดฤดูกาล พรีเมียร์ลีก มา

“ครึ่งแรกมันคือการทำงานอย่างหนัก มันเป็นเรื่องของโมเมนตั้มในเกมแบบนี้ และผมก็คิดว่าเราทำได้ในครึ่งแรก เรายิงประตูสวยๆ ได้ 2 ลูก และเราก็น่าจะยิงได้อีกในครึ่งหลังอีก 2 ลูก เราสมควรแล้วที่จะได้ 3 คะแนน มันเป็นเรื่องยากที่จะมาคว้าชัยชนะได้ที่นี่” คล็อปป์ กล่าว

“เราเพิ่งจะมาถึงตรงนี้ ผ่านมา 6 เกม เรายังไม่ได้คว้าแชมป์อะไร ดังนั้นเราจะต้องเดินหน้ากันต่อไป เราจำเป็นต้องเตรียมพร้อมรับมือคู่แข่งแต่ละทีม พวกเขาต่างก็รอคอยกันอยู่ และก็ต้องการน็อคพวกเรา แต่เราก็จำเป็นจะต้องพร้อมรับมือ นั่นแหละคือสิ่งที่เราต้องทำ”

สำหรับ ลิเวอร์พูล ตอนนี้นำโด่งเป็นจ่าฝูง พรีเมียร์ ลีก โดยมีคะแนนนำห่างแชมป์เก่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อยู่ถึง 5 แต้ม

 

 

ข่าวฟุตบอลต่างประเทศ

error: Content is protected !!