5 อาถรรพ์ที่ล้างไม่ลงในวงการฟุตบอล

แม้ว่าเทคโนโลยี ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ สามารถตอบคำถามที่มนุษย์ในอดีตกาลมองว่าเป็นปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ แต่หลายเรื่องราวที่คนเราต้องเจอก็ยังไม่มีคำอธิบายถึงต้นตอของมัน ในวงการฟุตบอลระดับสโมสรก็เช่นเดียวกัน การพลาดท่าในรอบชิงชนะเลิศ 1 ครั้ง คงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ แต่หากมีครั้งที่ 2 3 4 หรือไม่ได้สัมผัสกับความสำเร็จเลยเป็นเวลาร่วมร้อยปีละ!?
การจัดอันดับครั้งนี้เราขอพูดถึง 5 อาถรรพ์สุดลี้ลับที่ 5 สโมสรฟุตบอลต้องเจอ บางทีมสามารถล้างลงได้แต่ก็ใช้เวลาร่วมศตวรรษ และสำหรับบางทีมจวบจนกระทั่งปัจจุบันก็ไม่สามารถลบคำสาปลงได้เลย
5 อาถรรพ์ที่ล้างไม่ลงในวงการฟุตบอล
5. ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น
หนึ่งในสโมสรฟุตบอลสุดเก่าแก่จากดินแดนลุ่มแม่น้ำไรน์ ตลอดอายุของสโมสรกว่า 114 ปี สร้างผลิตผลดาวดังมากมายไม่ว่าจะเป็น รูดี้ โฟลเลอร์, แบรนด์ ชไนเดอร์ หรือ มิชาเอล บัลลัค ทว่าพวกเขาไม่เคยคว้าแชมป์บุนเดสลีกาได้ซักหนเดียว และอาถรรพ์ที่โด่งดังที่สุดของทีมคงหนีไม่พ้น ปีแห่งความผิดหวัง ซึ่งเกิดขึ้นในฤดูกาล 2001-2002 เมื่อทีมคว้า ‘ทริปเปิลรองแชมป์’ มาครอง ทั้งฟุตบอลลีก ฟุตบอลถ้วย เดเอฟเบ โพคาล และการพ่ายแพ้ให้กับ เรอัล มาดริด ในนัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมป์เปี้ยน ลีกส์ ด้วยลูกยิงวอลเลย์สุดสวยของ ซีเนอดีน ซีดาน ในเกมดังกล่าว
5 อาถรรพ์ที่ล้างไม่ลงในวงการฟุตบอล
4. ดาร์บี้ เคาน์ตี้
อาถรรพ์จากการขับไล่ผู้อยู่อาศัยเก่า หรือการสร้างทับที่ที่ไม่ควรจะสร้าง นำมาซึ่งความเชื่อเกี่ยวกับลางร้าย ที่มีผลมาจากความล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่าของ เจ้าแกะเขาเหล็ก ในอดีต และแฟนบอลในยุคนั้นเชื่อเป็นหนักเป็นแน่นว่า เพราะสโมสรไปขับไล่แคมป์ที่พักของชาวยิปซีเร่รอน เพื่อสร้างสนามเหย้าเดิมของทีม “เดอะ เบสบอล กราวนด์” ในปี 1889
จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ ดาร์บี้ เคาน์ตี้ ไปไม่ถึงถ้วยแชมป์อันเก่าแก่ของอังกฤษอย่าง เอฟเอ คัพ ที่ในยุคนั้นมีความขลังมากมายกว่าปัจจุบันอยู่ มาในปี 1946 ดาร์บี้ เข้าชิงชนะเลิศ เอฟเอคัพ กับ ชาร์ลตัน แอธเลติค เพื่อจะลบอาถรรพ์ให้จงได้ ตัวแทนจากทีมเดินทางไปหาชาวยิปซีเพื่อขอร้องให้ยกเลิกคำสาปเสีย 
ผลปรากฎว่าระหว่างเกมขณะที่เกมกำลังเสมอกันอยู่ 1-1 ลูกฟุตบอลที่ใช้แข่งขันอยู่ จู่ๆ ก็เกิดระเบิดออกท่ามกลางสักขีพยานที่เป็นแฟนบอลในสนาม เวมบลีย์ 
จบการแข่งขันอาถรรพ์ถูกทำลายสิ้น ดาร์บี้ เอาชนะไปด้วยสกอร์ 4-1 คว้าแชมป์เอฟเอ  คัพ ไปครองได้สำเร็จ

5 อาถรรพ์ที่ล้างไม่ลงในวงการฟุตบอล

5 อาถรรพ์ที่ล้างไม่ลงในวงการฟุตบอล
3. เบอร์มิงแฮม ซิตี้
เฉกเช่นเดียวกับ ดาร์บี้ เคาน์ตี้ คำสาปจากชาวยิปซีกับอาถรรพ์ 100 ปี ของ ‘เดอะ บลูส์’ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ เป็นผลพวงจากการทีสโมสรเลือกสร้างสนามเหย้า เซ้นต์ แอนดรูวส์ ในปี 1906 บนพื้นที่ที่เคยเป็นที่อยู่อาศัยของชาวยิปซีที่อาศัยเร่ร่อนทั่วบนเกาะอังกฤษและทวีปยุโรป
ความล้มเหลวของสโมสร และไม่สามารถก้าวขึ้นมาโดดเด่นเหนือทีมคู่ปรับร่วมถิ่นมิดแลนด์อย่าง แอสตัน วิลล่า นำมาซึ่งวิธีการ “แก้เคล็ด” ต่างๆ นาๆ สุดแท้แต่จะสรรหามาได้ ไม่ว่าจะเป็นการนำพระรูปพระเยซูตรึงไม้กางเขนมาประดับไว้ที่เสาไฟสนาม หรือแม้แต่การปัสสาวะรอบหัวมุมธงทั้งสี่ด้านก็เคยทำกันมาแล้ว
แม้จะสามารถคว้าแชมป์ลีกสูงสุดได้บ้าง และล่าสุดที่สามารถเอาชนะ อาร์เซนอล ได้ในเกมลีกคัพ นัดชิงชนะเลิศ ปี 2011 – 2012 แต่ไม่วายกลับพลาดท่าตกชั้นจาก พรีเมียร์ลีก ในปีเดียวกัน และจวบจนปัจจุบัน เป็นเวลากว่า 8 ปีที่ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ ยังไม่สามารถกลับมาสู่ลีกสูงสุดได้อีกเลย
5 อาถรรพ์ที่ล้างไม่ลงในวงการฟุตบอล
2. ฮิเบอร์เนียน
คำสาปชาวยิปซี น่าจะเป็นเทรนด์ยอดฮิตของทีมฟุตบอลในสหราชอาณาจักร แม้แต่ทีมเก่าทีมแก่จาก เอดินเบอะระห์ ‘เดอะ ฮิบส์’ ฮิเบอร์เนียน หนึ่งในสโมสรที่เก่าแก่ที่สุดจากแดนวิสกี้ ก็หนีไม่พ้นเช่นกัน
ฮิเบอร์เนียน ไม่สามารถคว้าแชมป์ฟุตบอลถ้วยที่เก่าแก่ที่สุดในโลกอย่าง สก็อตติช คัพ ได้เลยเป็นเวลากว่า 114 ปี โดยครั้งล่าสุดต้องย้อนกลับไปฤดูกาล 1901 – 02 โน่นเลย และให้หลังจากนั้น ทีมเข้าชิงรวมทั้งหมด 10 ครั้ง แต่จบลงด้วยตำแหน่งรองแชมป์ทั้งหมด จึงไม่น่าแปลกใจแต่อย่างใด หากแฟนบอลจะโทษความซวยซ้ำซวยซ้อนของทีมรักให้กับคำสาปแช่งและอาถรรพ์ของหญิงชราชาวยิปซีผู้หนึ่ง
ไม่พอแค่นั้น ยังมีเหตุการณ์สุดประหลาดเกิดขึ้นในช่วงราวทศวรรษที่ 1950 ขณะกำลังบูรณะอัฒจันทน์ อีสเตอร์ โร้ด สนามเหย้าของทีม เมื่อตราสัญลักษณ์ที่เป็นรูปพิณ ที่ประดับไว้ที่อัฒจันทน์ฝั่งทิศใต้ ซึ่งสะท้อนความเป็นรากเหง้าชาวไอริชอพยพ ได้หายไปอย่างลึกลับ !?
เหตุการณ์ดำเนินผ่านไปจวบจน 114 ปี ฤดูกาล 2015 – 2016 เมื่อสโมสรนำตราสัญลักษณ์ของสโมสรที่มีรูปพิณไปประดับไว้ที่อัฒจันทน์ทิศตะวันตกของสนามเพื่อแก้เคล็ด แม้ว่าในฤดูกาลนั้น เดอะ ฮิบส์ จะไม่สามารถเลื่อนชั้นกลับมาสู่ลีกสูงสุดของสก๊อตได้ก็ตาม แต่ก็ได้เข้าชิงถ้วย สก็อตติช คัพ กับ เรนเจอร์ส
อาจเป็นเพราะเกมนัดชิงชนะเลิศ แข่งที่ แฮมป์เดน ปาร์ค สนามเหย้าของ เซลติก คู่ปรับของ เรนเจอร์ส หรือไม่ก็ตาม เมื่อเกมดำเนินไปเกือบครบ 90 นาที และทำท่าว่าจะเสมอกันด้วยสกอร์ 2-2 อยู่แล้ว แต่ในช่วงทดเวลา เดวิด เกรย์ กองหลังของทีมขึ้นมาโขกลูกเตะมุมเป็นประตูชัย พร้อมล้างอาถรรพ์ร้างแชมป์ สก็อตติช คัพ ร้อยกว่าปี ลงได้แบบสุดดราม่า ชนิดแฟนบอลกรูลงสนามไปฉลองชัยกับนักเตะแบบบ้าคลั่งกันเลยทีเดียว
5 อาถรรพ์ที่ล้างไม่ลงในวงการฟุตบอล
1. เบนฟิก้า
คงไม่มีอาถรรพ์ไหนที่จะรุนแรงจวบจนทุกวันนี้เท่า เบนฟิก้า ต้องพบเจอ
เหยี่ยวลิสบอน ครองความยิ่งใหญ่ด้วยการเป็นแชมป์ลีกสูงสุดของประเทศ 36 สมัย แชมป์ฟุตบอลถ้วย 26 สมัย แต่สำหรับเวทีระดับทวีป 2 ถ้วยแชมป์ที่ประดับตู้ของสโมสรนั้นเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 1961 และ 1962 เนิ่นนานมาแล้ว
ผู้จัดการทีมที่พา เบนฟิก้า ครองเจ้า ‘บิ๊กเอียร์’ 2 สมัยติด มีชื่อว่า เบล่า กุตมันต์ ลางร้ายเกิดขึ้นเมื่อยอดผู้จัดการทีมชาวฮังกาเรียน ขอเพิ่มค่าตัวเองหลังพา เบนฟิก้า คว้าแชมป์ระดับทวีปถึง 2 สมัยติดต่อกัน
ข้อเสนอดังกล่าวถูกปัดทิ้งอย่างไม่ใยดีจากผู้บริหารสโมสร มิหนำซ้ำยังทำการยกเลิกสัญญาลงอีก การกระทำดังกล่าวนำมาซึ่งบันดาลโทสะของ กุตมันต์ พร้อมคำสาปแช่งที่ว่า “จากนี้ไปอีกหนึ่งร้อยปี เบนฟิก้า จะไม่มีทางได้แชมป์ยุโรปอีกเลย”
เวลาผ่านไปหลายทศวรรษ เหยี่ยวลิสบอน บินโฉบเข้าใกล้ถ้วยแชมป์หลายต่อหลายครั้ง แต่ก็พลาดท่าพ่ายในรอบชิงชนะเลิศไปทั้งหมดรวม 8 ครั้ง (ยูโรเปียนคัพ/แชมป์เปี้ยน ลีกส์ 5 ครั้ง และ ยูฟ่า คัพ/ยูโรป้า ลีก 3 ครั้ง)
อาถรรพ์ของ กุตมันต์ ไม่มีทีท่าว่าจะลดลงซักนิด แม้ว่าเขาได้เสียชีวิตไปแล้ว โดยก่อนเกมนัดชิงชนะเลิศ ยูโรเปียน คัพ ในปี 1990 กับ เอซี มิลาน “เสือดำแห่งโมซัมบิก” ยูเซบิโอ ตำนานของทีม เดินทางไปเคารพสุสาน กุตมันต์ ก่อนเกมนัดชิงที่ กรุงเวียนนา เพื่อขอให้ดวงวิญญาณ กุตมันต์ ถอนอาถรรพ์นั้นเสีย อย่างไรก็ตามคำขอก็ไม่เป็นผล เมื่อเกมดังกล่าวเป็น มิลาน ที่คว้าแชมป์ไปครองด้วยผลสกอร์ 1-0

ดูไฮไลท์คู่อื่น :: ไฮไลท์ฟุตบอลทั้งหมด
อ่านข่าวฟุตบอล :: ข่าวฟุตบอล
ติดตาม Facebook :: Facebook