การเหยียดเพศ ผิว เชื้อชาติ ในวงการฟุตบอล แม้มันจะเป็นเรื่องที่หลายคนไม่เห็นด้วยแล้วในสมัยนี้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าเรื่องแบบนี้มันยังมีอยู่เสมอมา เราจึงรวบรวม 5 เหตุการณ์ที่มีการเหยียดผิวในวงการลูกหนังมาให้ทุกคนชมกันเพื่อตระหนักว่าปัญหานี้ไม่ใช่เรื่องที่ควรมองข้าม

.

5. การประท้วงของ เควิน-พรินซ์ บัวเต็ง

5 เหตุการณ์เหยียดผิวในวงการลูกหนัง

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2013 ขณะที่ เควิน-พรินซ์ บัวเต็ง ค้าแข้งให้กับ เอซี มิลาน เขาได้มีโอกาสพบกับ โปร ปาเทรีย สโมสรซีเรีย ซี ของอิตาลี ในนัดกระชับมิตร

ระหว่างเกม บัวเต็ง ต้องทนฟังแฟนบอลเรียกชื่อเขาพร้อมไปด้วยการล้อเลียนด้วยเสียงลิง จนกระทั่งนาทีที่ 25 ของเกมมิดฟิลด์จากเมืองเบียร์รายนี้ก็กลั้นโทสะของไว้ไม่อยู่เขาได้หยิบบอลมาก่อนที่จะเตะเข้าที่นั่งแฟนบอล และเดินออกจากสนาม จากนั้นผู้ตัดสินก็เป่าให้หยุดเกม

เควิน-พรินซ์ บัวเต็ง ได้ออกมาเผยกับนักข่าวหลังจากเกมนัดดังกล่าวว่า “ผมบอกกับตัวเองว่า ในสภาพแวดล้อมแบบนี้ ในสถานการณ์แบบนี้ ผมไม่อยากเล่นฟุตบอลเลย”

.

4. แชทหลุดของ มัลกี้ มักคาย

5 เหตุการณ์เหยียดผิวในวงการลูกหนัง

เมื่อปี 2014 ได้มีการเปิดเผยแชทของ มัลกี้ มักคาย อดีตกุนซือคาร์ดิฟฟ์ โดยในนั้นมีข้อความในเชิงเหยียดเชื้อชาตินักเตะชาวเกาหลีใต้ คิม โบ คยอง อย่าง “ไอ้เจ๊ก” “แถวนี้มีหมามากมายสำหรับคุณนะ” 

นอกจากนั้นยังมีข้อความเหยียดเจ้าหน้าที่ของสโมสรที่ชื่อว่า ฟิล อีกว่า “ลุยเลย ไอ้อ้วนฟิล ไม่มีอะไรที่เหมือนกับพวกยิวหิวเงินอีกแล้ว” ซึ่งภายหลังข้อความเหล่านี้ได้ถูกรับทราบโดย สมาคมฟุตบอลอังกฤษ และเจ้าตัวได้ออกมาขอโทษเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว

.

5 เหตุการณ์เหยียดผิวในวงการลูกหนัง

3. ซามูเอล เอโต้ ผู้โดนเหยียดซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2006 บาร์เซโลน่า พบกับ เรอัล ซาราโกซ่า ในศึก ลา ลีกา สเปน ซามูเอล เอโต้ ต้องพบกับประสบการณ์สุดเลวร้ายในชีวิตการค้าแข้งของเขา เพราะเกมนั้นเขาโดนแฟนบอลฝั่งเจ้าบ้านได้สร้างวีรกรรมที่น่าอับอายที่สุดในวงการลูกหนังด้วยการตะโกนล้อเลียน เอโต้ ด้วยเสียงลิงทุกครั้งที่เขาได้บอล นอกจากนั้นยังมีการโยนถั่วใส่เขาอีกด้วย

แม้ว่าหัวหอกเลือดแคเมอรูนคนนี้จะเคยผ่านเรื่องราวเช่นนี้มาก่อน แต่ครั้งนี้เขาตัดสินใจเดินออกจากสนามพร้อมพูดว่า “โน แมทซ์” หรือไม่เล่นต่อแล้ว ท่ามกลางการยื้อของเพื่อนร่วมทีมและกรรมการ

.

2. ทีมชาติสเปนกับการเหยียดผิว

อีกหนึ่งแมทซ์กระชับมิตรที่มีประเด็นเหยียดผิว นั่นก็คือนัดระหว่าง ทีมชาติสเปน พบกับ ทีมชาติอังกฤษ ในปี 2004 โดยในเกมนั้นหากผู้เล่นผิวสีของทีมสิงโตคำราม แอชลี่ย์ โคล หรือ ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ ครองบอล บรรดาแฟนๆ กระทิงดุก็พร้อมใจทำเสียงลิงล้อเลียนเพื่อรบกวนการเล่น ซึ่งหลังจากเกมนั้นสมาคมฟุตบอลสเปนก็โดนปรับอย่างหนักไปตามระเบียบ

นอกจากนั้นทีมชาติสเปนยุคนั้นก็ยังมีข่าวฉาวอีกเนื่องจาก หลุยส์ อราโกเนส กุนซือทัพกระทิงดุในตอนนั้น ได้พูดกับ เรเยส เกี่ยวกับ เธียร์รี่ อองรี ว่า “ไปบอกไอมืดนั่นว่าคุณเจ๋งกว่าเขา บอกเขาว่าผมเป็นคนบอก คุณต้องเชื่อในตัวเองว่าคุณเล่นได้ดีกว่าไอมืดนั่น” โดยภายหลังสื่ออังกฤษมากมายต่างกระตุ้นให้ไล่ อราโกเนส ออกจากตำแหน่ง แต่สมาคมฟุตบอลสเปนก็ได้ตอบกลับว่า “ความผิดของเขาไม่ใช่เรื่องร้ายแรงมากพอที่จะไล่ออก”

.

1.ซัวเรซ และ เอฟร่า

อีกหนึ่งเหตุการณ์ที่หลายๆ คนอาจจำได้ดี โดยเหตุเกิดที่ศึกแดงเดือดระหว่างลิเวอร์พูล พบกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อปี 2011 หลุยส์ ซัวเรซ ได้มีการเข้าปะทะกับ ปาทริซ เอวร่า หลายจังหวะก่อนที่หัวหอกฝ่ายหงส์แดงจะสบถออกมาว่า “นิโกร”

โดยในภายหลัง เอวร่า ได้นำเรื่องไปแจ้งทางสมาคมฟุตบอลอังกฤษ จากนั้น ซัวเรซ จึงออกมาแก้ตัวว่าไม่มีเจตนาเหยียดผิว แต่ดูทางสมาคมจะมองเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ปล่อยไปไม่ได้จึงสั่งแบน 8 นัด พร้อมกับปรับเงินอีก 4 หมื่นยูโร

.

อ่านข่าวฟุตบอล :: ข่าวฟุตบอลสดใหม่ทุกวัน
ติดตาม Facebook :: SUPERSPORTSKICK

error: Content is protected !!