5 สิ่งที่คุณควรรู้ เกี่ยวกับฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรปอย่างฟุตบอล ยูโร 2020
1.ยูโร 2020 รอบสุดท้าย เริ่มต้นเมื่อไหร่?
เช่นเดียวกับครั้งก่อนๆ ที่ทัวร์นาเมนต์จะจัดขึ้นในช่วงกลางปี หลังโปรแกรมฟุตบอลลีกในยุโรปเสร็จสิ้น โดยในครั้งนี้จะใช้เวลาการแข่งขันหนึ่งเดือนเต็มๆ ระหว่างวันที่ 12 มิถุนายน ถึง 12 กรกฎาคม
2.เจ้าภาพในครั้งนี้คือใคร
ในมหกรรมฟุตบอล ยูโร 2020 นี้ จะแตกต่างจากครั้งก่อนๆ ที่ปกติจะมี “เจ้าภาพ” หนึ่งหรือสองประเทศ เป็นผู้จัดการแข่งขันตลอดทั้งทัวร์นาเมนต์
แต่ในครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกที่จะมีสังเวียนฟาดแข้งถึง 12 สนามจาก 12 เมืองใน 12 ประเทศ เนื่องในโอกาสครบรอบ 60 ปี ของการแข่งขันฟุตบอลรายการนี้ โดยจะประกอบด้วย
อัมสเตอร์ดัม (เนเธอร์แลนด์) – โยฮัน ครัฟฟ์ อารีนา
บาคู (อาเซอร์ไบจาน) – โอลิมปิค สเตเดี้ยม
บิลเบา (สเปน) – ซาน มาเมส
บูคาเรสต์ (โรมาเนีย) – อารีนา เนชันนัล
บูดาเปสต์ (ฮังการี) – ปุสกัส อารีนา
โคเปนเฮเกน (เดนมาร์ก) – พาร์เคน สเตเดี้ยม
ดับลิน (ไอร์แลนด์) – อาวีวา สเตเดี้ยม
กลาสโกว์ (สกอตแลนด์) – แฮมป์เดน พาร์ค
ลอนดอน (อังกฤษ) – เวมบลีย์
มิวนิค (เยอรมนี) – อัลลิอันซ์ อารีนา
โรม (อิตาลี) – สตาดิโอ โอลิมปิโก
เซ็นต์ ปีเตอร์สเบิร์ก (รัสเซีย) – เครสดอฟสกี้ สเตเดี้ยม
3.ทีมใดบ้างที่จะได้เข้าร่วมการแข่งขัน?
ในรอบสุดท้ายกลางปี 2020 นั้น จะมีทีมที่ผ่านเข้าไปเล่นทั้งหมด 24 ประเทศ ซึ่งก่อนหน้านี้จะมีเพียง 16 ประเทศเท่านั้นที่จะได้สิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขัน แต่ในปี 2016 ได้มีการเปลี่ยนกฏและเพิ่มให้เป็น 24 ทีมมาจนถึงปัจจุบัน โดยคัดเลือกจาก 2 ทีมที่อันดับดีที่สุดจาก 10 กลุ่มในรอบคัดเลือก และ คัดเลือกอีก 4 ทีมจากการเพลย์ออฟ
(ทีมที่ได้สิทธิ์เข้าร่วมแน่นอนแล้ว คือ อังกฤษ, ฝรั่งเศส, รัสเซีย, เบลเยียม, ยูเครน, โปแลนด์, สเปน, สาธารณรัฐเช็ก, ตุรกี, ฟินแลนด์, สวีเดน, เนเธอร์แลนด์, เยอรมนี, ออสเตรีย, โครเอเชีย, โปรตุเกส, สวิตเซอร์แลนด์, เดนมาร์ก และ เวลส์)
4.วิธีการแข่งขันในรอบสุดท้ายเป็นอย่างไร?
จะมีการจับฉลากแบ่งสายกันในวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้ โดยทั้ง 20 ทีมที่ผ่านเข้ารอบแบบอัตโนมัติและอีก 4 ทีมที่ต้องไปเล่นรอบเพลย์ออฟ จะถูกนำมาจัดให้เป็น 6 กลุ่ม เอ ถึง เอฟ โดยมีกลุ่มละ 4 ทีม
กลุ่ม เอ จะเล่นที่ โรม / บาคู
กลุ่ม บี จะเล่นที่ เซ็นต์ ปีเตอร์สเบิร์ก / โคเปนเฮเกน
กลุ่ม ซี จะเล่นที่ อัมสเตอร์ดัม / บูคาเรสต์
กลุ่ม ดี จะเล่นที่ กลาสโกว์ / ลอนดอน
กลุ่ม อี จะเล่นที่ บิลเบา / ดับลิน
กลุ่ม เอฟ จะเล่นที่ มิวนิค / บูดาเปสต์
ซึ่งทีมที่จะได้เข้าสู่รอบน็อคเอาท์ต่อไปนั้น คือทีมอันดับที่ 1-2 ของแต่ละกลุ่ม และ อันดับ 3 ที่ดีที่สุด 4 ทีม จึงจะได้สิทธิเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย
นัดเปิดสนาม จะเริ่มในวันที่ 12 มิถุนายน ที่สนาม สตาดิโอ โอลิมปิโก ในกรุงโรม ประเทศอิตาลี ส่วนนัดชิงชนะเลิศ จะแข่งขันในวันที่ 12 กรกฎาคม ที่สนาม เวมบลีย์ ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
5.ทีมที่เคยเป็นแชมป์มากที่สุด
เยอรมนี 3 ครั้ง
สเปน 3 ครั้ง
ฝรั่งเศส 2 ครั้ง
เช็คโกสโลวาเกีย 1 ครั้ง
เดนมาร์ก 1 ครั้ง
กรีซ 1 ครั้ง
อิตาลี 1 ครั้ง
เนเธอร์แลนด์ 1 ครั้ง
โปรตุเกส 1 ครั้ง
สหภาพโซเวียด 1 ครั้ง