ประวัติ คริสเตียน อีริคเซ่น มิดฟิลด์สโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ประวัติ คริสเตียน อีริคเซ่น
Christian Eriksen เป็นนักฟุตบอลทีมชาติเดนมาร์ก ลงเล่น 120 นัด ยิงได้ 39 ประตู (13 มกราคม 2023) ปัจจุบันสังกัดสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (เข้าร่วม กรกฎาคม 2022) คริสเตียน อีริคเซ่น เกิดวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 1992 ที่เมืองมิดเดิ้ลฟาร์ท ประเทศเดนมาร์ก เริ่มเล่นฟุตบอลนะดับเยาชนตั้งแต่อายุ 3 ขวบกับสโมสร Middelfart G&BK ก่อนจะย้ายสู่ อาแย็กซ์ ในปี 2008 (16 ปี)
2008-2013 จากทีมเยาวชน สู่ทีมชุดใหญ่ อาแจ็กซ์
กันยายน 2008 คริสเตียน อีริคเซ่น ย้ายสู่ทีมเยาวชน อาแย็กซ์ จากนั้นในปี 2010 ถูกดันขึ้นไปเล่นกับทีมชุดใหญ่ ประเดิมสนามเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2010 (ฤดูกาล 2009/10) ลงเล่น 84 นาที ในนัดที่เสมอ เบรด้า 1-1 หลังจากนั้น ยังได้รับโอกาสอย่างต่อเนื่อง ได้ลงเล่นเอเรดีวิซี่ลีก 15 นัด (ตัวจริง 5 นัด)
ฤดูกาล 2010/11 คริสเตียน อีริคเซ่น กลายเป็นกำลังหลักของทีมอย่างเต็มตัวในวัย 19 ปี ได้ลงเล่น 47 นัดรวมทุกรายการ ยิงได้ 8 ประตู จ่าย 16 แอสซิสต์ พาทีมคว้าแชมป์เอเรดีวิซี่ลีก แล้วก็รองแชมป์ดัตช์คัพ ซึ่งหลังจบฤดูกาลดังกล่าว อีริคเซ่นได้รับรางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมของ อาแย็กซ์ และของประเทศเดนมาร์ก

ฤดูกาล 2011/12 คริสเตียน อีริคเซ่น พลาดการลงเล่นในเอเรดีวิซี่แค่นัดเดียว เขาลงตัวจริง 33 นัด ยิงได้ 7 ประตู พ่วงด้วย 19 แอสซิสต์ พาทีมป้องกันแชมป์ลีกได้สำเร็จ ฤดูกาล 2012/13 คริสเตียน อีริคเซ่น ยังทำผลงานได้ยอดเยี่ยมเช่นเดิม ลงเล่น 46 นัดรวมทุกรายการ ยิงได้ 13 ประตู กับอีก 22 แอสซิสต์ พาทีมคว้าแชมป์ลีกไปครอง เป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกัน ขณะนั้นเขากลายเป็นมิดฟิลด์ที่ถูกจับตามองทั่วยุโรป สุดท้ายกลายร่างเป็นนักเตะ “ไก่เดือยทอง”
2013-2020 ลุยพรีเมียร์ลีก กับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์
30 สิงหาคม 2013 ท็อตแน่มฮ็อท สเปอร์ จ่ายเงิน 11 ล้านปอนด์ให้กับ อาแย็กซ์ เพื่อดึงตัว คริสเตียน อีริคเซ่น มาเล่นในพรีเมียร์ลีก ซึ่งสเปอร์ในตอนนั้น (2013/14) คุมทีมโดย อันเดร วิลลาส โบอาสคริสเตียน อีริคเซ่น ยึดตัวหลักของทีมได้ทันที คุมแดนกลางร่วมกับ มูสซ่า เดมเบเล่ และ เปาลินโญ่ แต่ด้วยความที่มีอาการบาดเจ็บรบกวน ทำให้ลงสนามได้ไม่เต็มจำนวน แต่ก็ได้เล่นถึง 36 นัดรวมทุกรายการ ยิงได้ 10 ประตู จ่าย 12 แอสซิสต์

ฤดูกาล 2016/17 เมาริโอ โปเซ็ตติโน่ เข้ามาคุมสเปอร์ โดยที่ คริสเตียน อีริคเซ่น ยังยึดตัวหลักของทีมเช่นเดิม คุมเกมแดนกลางร่วมกับ เอริค ดายเออร์ , เดเล่ อัลลี่ และ วิคเตอร์ วานยาม่า ซึ่งในฤดูกาลนั้น อีริคเซ่น ลง เป็นตัวจริงในพรีเมียร์ลีก 36 นัด ยิง 8 ประตู จ่าย 16 แอสซิสต์ พาทีมจบด้วยตำแหน่งรองแชมป์พรีเมียร์ลีก ตามหลังแชมป์ เชลซี 7 คะแนน

2018/19 ผลงานของสเปอร์ ดร็อปไปพอสมควรในพรีเมียร์ลีก แต่ผลงานส่วนตัวของ คริสเตียน อีริคเซ่น ยังคงทำได้ดี เขาพาทีมผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศฟุตบอลยูฟ่า แชมป์เปียนลีก ก่อนจะพ่าย ลิเวอร์พูล 0-2 ซึ่ง อีริคเซ่น ได้ลงเล่นครบทั้ง 12 นัดในรายการนี้ (ตัวจริง 11) ยิงได้ 2 ประตู จ่าย 4 แอสซิสต์ รวมผลงานในซีซั่นนั้น เขาลงเล่น 51 นัดรวมทุกรายการ ยิงได้ 10 ประตู จ่าย 17 แอสซิสต์

หลังจากนั้น คริสเตียน อีริคเซ่น ผลงานเริ่มดร็อปลง จนถูกปล่อยตัวให้ อินเตอร์ มิลาน ในเดือนมกราคม 2020 ซึ่งการเล่นในกัลโช ซีเรียอา เขากลับไม่ประสบความสำเร็จ แล้วดันมาโชคร้ายเกิดปัญหาหัวใจหยุดเต้นระหว่างการแข่งฟุตบอลยูโร 2020 แต่ยังโชคดีที่เขารอดมาได้ หลังจากพักร่างกายอยู่นาน และกลับมาเล่นฟุตบอลได้อีกครั้ง แต่สมาคมฟุตบอลอิตาลี ไม่อนุญาตให้คนที่มีปัญหาด้านหัวใจเล่นฟุตบอล เพื่อความปลอดภัยของนักเตะ ทางสโมสรอินเตอร์ มิลาน จึงจำเป็นต้องยกเลิกสัญญากับ คริสเตียน อีริคเซ่น

2022 จาก เบรนท์ฟอร์ด สู่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
31 มกราคม 2022 เบรนท์ฟอร์ด ตัดสินใจเซ็นสัญญาระยะสั้นกับ คริสเตียน อีริคเซ่น เขาเป็นกำลังสำคัญในช่วงท้ายฤดูกาล พาทีมเกาะโซนกลางตารางรอดตกชั้นแบบไม่ต้องลุ้นอะไรมากนัก หลังจบฤดูกาลนั้น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รับช่วงต่อด้วยการมอบค่าเหนื่อย 150,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ พร้อมสัญญา 3 ปี ให้กับ คริสเตียน อีริคเซ่น ซึ่งปัจจุบัน (2022/23 | 13มกราคม) เขาลงสนามไปแล้ว 26 นัด ยิงได้ 2 ประตู จ่าย 8 แอสซิสต์

ติดตามเรื่องราว ประวัตินักบอล เพิ่มเติมได้ที่ :: ประวัตินักฟุตบอล
เยี่ยมชมเว็บข่าวกีฬาได้ที่ :: เว็บข่าวกีฬาออนไลน์