เปิดเกมมาในครึ่งเวลาแรก ก็เปิดเกมบุกใส่กันเลยเมื่อทางฝั่งของทีมเยือน บุรีรีมย์ ยูไนเต็ด ได้โอกาสบุกขึ้นมาทำประตูจากจังหวะเปิดมุมเข้ามาบริเวณกรอบเขตโทษ เป็นทาง เดนนิส มูริลโล ผู้เล่นของชลบุรีโหม่งสกัดออกมา ไปเข้าทางของผู้เล่นปราสาทสายฟ้าเข้ามาชาร์ต แต่ไม่ถึง หลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

    ทางปราสาทสายฟ้ายังคงเปิดเกมบุกใสฉลามอย่างต่อเนื่อง หวังเอาประตูขึ้นนำก่อนในครึ่งแรก มาถึงจังหวะ ที่บุรีรัมย์เล่นบอลเร็ว และได้จังหวะลุ้นการทำประตูจากการยิงของ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ แต่ลูกยิงไม่มีน้ำหนักมากที่ที่จะผ่านมือผู้รักษาประตูอย่าง ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ไปได้

    จนครบ 45 นาที ในครึ่งแรก แม้จะเป็นทางฝั่งของบุรีรัมย์ที่พยายามเปิดเกมรุกใส่ชลบุรีอย่างหนัก แต่ก็ไม่สามารถเอาชนะเกมรับของเจ้าบ้านไปได้ หมดวเวลาเสมอกันไปก่อน 0-0

    เปิดฉากมาในครึ่งหลัง ชลบุรี เอฟซี ได้ลูกโทษจากจังหวะทำฟาวล์ของ อภิวัฒน์ งั่วลำหิน ไปทำฟาวล์ใส่ทางฝั่งผู้เล่นของชลบุรีในกรอบเขตโทษอย่าง เดนนิส มูริลโล ผู้ตัดสินไม่รอช้า รีบไปดู VAR และตัดสินให้เป็นลูกโทษทันทีในนาทีที่ 74

    คนที่รับหน้าที่สังหารจุดโทษนี้ ก็ยังคงเป็น เดนนิส มูริลโล เขายิงไปติดเซฟของ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน แต่ยังสามารถแก้ตัวได้จากการเข้ามายิงซ้ำเข้าไป ทำให้ชลบุรีขึ้นนำ 1-0

    เกมทำเหมือนจะจบลงด้วยสกอร์ 1-0 แต่ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เจ้าบ้านได้ลูกฮึด สวนกลับการขึ้นมาบุกอย่างหนักของบุรีรัมย์ เป็นทางฝั่งของ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ที่จัดการปิดฝาโรงทีมเยือน ขึ้นนำ 2-0 เก็บ 3 แต้มในบ้านได้สำเร็จ

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

    ชลบุรี เอฟซี (4-2-3-1) ชนินทร์ แซ่เอี๊ยะ – บุคฆอรี เหล็มดี, จูเนียร์ เอลด์สตอล, ทรงชัย ทองฉ่ำ, ฉัตรมงคล เรืองธณโรจน์ – กฤษดา กาแมน, วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ – ยู บยอง-ซู, จีดี คานยุค, เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ – เดนนิส มูริลโล

    บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (3-4-1-2) ศิวรักษ์ เทศสุงเนิน – ชิติพัทธ์ แทนกลาง, อภิวัฒน์ งั่วลำหิน, พรรษา เหมวิบูลย์ – นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม, จักรพันธ์ แก้วพรม, รัตนากร ใหม่คามิ, ปิยพล ผานิชกุล – สุภโชค สารชาติ – ศุภชัย ใจเด็ด, ซามูเอล โรชา