คงจะจริงอย่างที่เขาว่ากันว่าเสร็จศึกฆ่าขุนพล การจะพาทีมที่อยู่การแข่งขันระดับลีกรองขึ้นสู่การแข่งขันระดับลีกสูงสุดได้นะไม่ใช่เรื่องง่ายเลยแม้แต่น้อย และความยากจะทวีคูณมากขึ้นไปอีกหากเป็นการแข่งขันในอังกฤษ ประเทศที่มีการแข่งขันฟุตบอลอย่างเข้มข้นและดุเดือด กุนซือ คนไหนก็ตามที่สามารถพาทีมขึ้นสู่การแข่งขันพรีเมียร์ลีกได้สำเร็จจากการไต่เต้าขึ้นมาจากลีกรองได้นั้นนับว่ามีความสามารถน่ายกย่อง แต่เมื่อพวกเขาต้องเผชิญหน้ากับความจริงในชีวิตว่าการแข่งขันในพรีเมียร์ลีกนั้นช่างหนักหน่วงเกินความสามารถที่จะรับมือ หลายคนก็ต้องหลุดออกจากตำแหน่งไปอย่างน่าเสียดาย

     การแข่งขันชิมลางพรีเมียร์ลีกในสัปดาห์แรกเขาสามารถทำออกมาได้อย่างน่าประทับใจด้วยการคว้าชัยชนะเหนือแอสตัน วิลล่า แต่หลังจากที่ต้องเจอกับทีมใหญ่ไม่ว่าจะเป็นแมนซิตี้หรือแม้แต่อาร์เซนอลเขาก็ต้องเผชิญหน้ากับความพ่ายแพ้แบบกู่ไม่กลับ และในสัปดาห์ที่ 4 พวกเขาต้องพ่ายแพ้ให้กับลิเวอร์พูลไปด้วยคะแนนกว่า 0 ประตูต่อ 9 ในทีเดียว ถึงแม้ว่าพวกเขาจะได้เข้ารอบการแข่งขันคาราบาวคัพหลังจากคว้าชัยชนะเหนือนอริช ซิตี้จากการดวลจุดโทษได้สำเร็จ แต่มันก็ไม่เพียงพอที่จะรั้งเก้าอี้เอาไว้กับเขาแต่อย่างใด

     และด้วยผลงานที่ย่ำแย่จนทำให้สโมสรต้องเสียประตูอย่างถล่มทลายทำให้ทางสโมสรจึงได้ออกมาแถลงการณ์ว่าพวกเขาได้แยกทางกับกุนซืออย่าง สก็อกต์ พาร์กเกอร์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่งผลให้เขาจะกลายเป็น กุนซือชาวอังกฤษ คนแรกในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ที่ต้องตกงานเสังเวยฟอร์มการแข่งขันที่ย่ำแย่ของทีม ล่าสุดทางสโมสรชื่อดังก็ยังไม่ได้มีการออกมาเปิดเผยเกี่ยวกับการดึงตัวกุนซือคนใหม่เข้าร่วมทีมแต่อย่างใด เราจึงยังต้องลุ้นกันต่อไปว่าในช่วงเวลาหลังจากนี้ที่ บอร์นมัธ ไร้ กุนซือ คุมทีมผลงานของพวกเขาจะออกมาเป็นหัวหรือก้อยกันแน่ ไม่เพียงเท่านั้นเรายังต้องลุ้นอีกด้วยว่าใครที่จะก้าวเข้ามาเป็นกุนซือคนใหม่ของบอร์นมัธ เขาผู้นั้นจะมีความสามารถในการแก้สถานการณ์วิกฤตในครั้งนี้ได้สำเร็จหรือไม่