ในส่วนของกฎการเล่นที่ถูกเปลี่ยนใหม่ใน ลีกเอ็นบีเอ นั้นมีอยู่สองข้อด้วยกันที่จะนำไปปรับใช้ในฤดูกาลหน้า ข้อที่หนึ่ง คือการ ชาเลนจ์ การฟาวล์ในสนาม ปกติหากมีการฟาวล์ในสนามเกิดขึ้นและถูกตัดสินใจจากกรรมการในสนาม แต่ โค้ชมองว่า จังหวะนี้ไม่น่าจะเป็นการฟาวล์ได้ เฮ้ดโค้ช มีสิทธ์ที่จะโต้แย้ง หรือใช้ โอกาสในการแย้งการฟาวล์นี้ได้ แต่จะต้องมีสิทธ์การขอเวลานอกลงเหลืออยู่เท่านั้น จึงจะใช้สิทธ์นี้ได้ เพียง 1 ครั้งต่อเกมเท่านั้น 

     โดยล่าสุด เอ็นบีเอได้ประกาศว่า จะเพิ่มสิทธ์แย้ง การฟาวล์ ให้กับเฮ้ดโค้ช เป็น 2 ครั้งต่อเกม และจะต้องมีการขอเวลานอก เหลืออยู่ 2 ครั้ง ในขณะที่ทำการขอ เช่นเดียวกัน การชาเลนจ์ ฟาวล์นี้ คือการที่เฮ้ดโค้ชคิดเห็นไม่ตรงกับการตัดสินของกรรมการ หากใช้สิทธ์ ชาเลนจ์ หัวหน้ากรรมการในสนามจะต้องไปดู ภาพรีเพลย์ย้อนหลังสำหรับ จังหวะฟาลว์นี้ เพื่อตัดสิน อย่างถูกต้องอีกทีหนึ่ง หากคำตัดสินเป็นไปตามกรรมการว่า ทีมที่ชาเลนจ์ จะเสีย การขอเวลานอกไป 1 ครั้ง และ หากผลการตัดสินเป็นไปตามที่ โค้ชแย้ง จะไม่เสียเวลานอก และ จะได้รับการแก้ไขผลการตัดสินทันที

     อีกหนึ่งข้อที่ถูกปรับเปลี่ยนกฎ นั่นก็คือ การพุ่งล้มหรือแกล้งตบตากรรมการของผู้เล่นในสนามพื่อเรียกร้องการได้ฟาวล์ หากผู้ตัดสินจับได้ จะถูกเป่า ฟาวล์ เทคนิคเคิ่ล ใส่ทันที โดยถ้าหากผู้เล่นโดน เทคนิคเคิ่ล ฟาวล์ 2 ครั้งในเกม จะถูกไล่ออกจากสนามทันที ในเกมนัดนั้น