นับตั้งแต่ประวัติศาสตร์ที่มีการแข่งขันฟุตบอลมานั้นแน่นอนว่าความขัดแย้งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องปกติทั่วไปเพราะในวงการนี้เป็นการอยู่ร่วมกันของคนหลายคนแถมยังเต็มไปด้วยคนที่มีความสามารถอีกต่างหาก แต่ก็ไม่เคยมีใครออกมาวิพากษ์วิจารณ์ทีมของตนเองอย่างถึงพริกถึงขิงแบบไม่ไว้หน้าใครเช่นเดียวกัน อย่างดีก็ทำได้แค่เหน็บแนมแต่การออกมาพูดความจริงผ่านความคิดเห็นของตนเองแบบหมดเปลือกและไม่เคยปรากฏขึ้นในประวัติศาสตร์การแข่งขันฟุตบอลนับตั้งแต่ที่มีการจัดการแข่งขันพรีเมียร์ลีกขึ้นมา

     มันจึงกลายเป็นประเด็นร้อนไปทั่วทั้งโลกเมื่อมีการเปิดเผยบทสัมภาษณ์ของโรนัลโด้ที่เปิดใจแบบหมดเปลือกไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกของตนเองหรือแม้แต่ข้อเท็จจริงก็ตาม จากบทสัมภาษณ์ที่ออกมาแบบไม่ไว้หน้าใครนั้นเชื่อว่าหลังจากนี้เขาน่าจะเข้าหน้ากับคนภายในทีมได้ลำบากไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะเขาซัดยับตั้งแต่เจ้าของสโมสรไปจนถึงเชฟเลยทีเดียว

     และแน่นอนว่าเขาอาจจะถูกพิจารณาลงโทษก็เป็นได้จากคำพูดที่ไม่เหมาะสมที่เอ่ยออกมาในบทสัมภาษณ์ มีข่าวลือถูกเปิดเผยมาว่าแมนยู กำลังพิจารณาลงโทษ โรนัลโด้ จากบทสัมภาษณ์ที่ส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของสโมสรโดยเฉพาะการกล่าวอ้างถึงผู้บริหารระดับสูงไปจนถึงเจ้าของสโมสร ในขณะที่กุนซือเองก็จะเข้าร่วมการประชุมเพื่อพิจารณาโทษเช่นเดียวกันเนื่องจากเขาเป็นคู่กรณีโดยตรง 

     แต่อย่างไรก็ตามสื่อชื่อดังอย่าง I Newspaper ออกมาวิเคราะห์ว่าสุดท้ายแล้วแมนยูคงไม่อยากเสียเวลาและตัดสินใจที่จะปล่อยผ่านเหตุการณ์ดังกล่าวด้วยการตกลงยกเลิกสัญญากับโรนัลโด้แบบยินยอมพร้อมใจ เนื่องจากหากพวกเขาไม่ทำเช่นนั้นพวกเขาก็ยินดีที่จะขายนักเตะออกจากทีมเช่นเดียวกัน แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะการจะหาทีมที่มีเงินจำนวนมหาศาลพอจะคว้าตัวเขาไปร่วมทีมได้นั้นมีเพียงแค่หยิบมือ

     สถานการณ์ของแมนยูในตอนนี้ไม่จำเป็นที่จะต้องพึ่งฝีเท้าของโรนัลโด้อีกต่อไป กุนซืออย่างเอริค เทน ฮากได้พิสูจน์ให้เราเห็นแล้วว่าเขาสามารถทำทีมได้แถมยังประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีอีกด้วยถึงแม้ว่าจะไม่มี โรนัลโด้ อยู่ในแผนก็ตาม เราจึงต้องมาดูสถานการณ์กันต่อไปในภายหลังว่าหลังจากจบการแข่งขันฟุตบอลโลกแล้วเหตุการณ์ดังกล่าวจะดำเนินต่อไปในทิศทางใด