เป็นเรื่องปกติที่แฟนบอลจะคาดหวังสูงหากสโมสรของตนเองซื้อนักเตะมาในราคาที่แพงกว่าปกติ  ยิ่งเป็นนักเตะที่แพงเข้าขั้น ระดับประวัติศาสตร์ของสโมสรยิ่งถูกกว่าความคาดหวังมากขึ้นกว่าเดิมไปอีก แต่อย่างไรก็ตามเราต้องไม่ลืมว่านักเตะเองก็เป็นมนุษย์เช่นเดียวกัน เวลาที่พวกเขาไปอ่านข้อความคาดหวังบนโซเชียลมีเดียหรือได้รับเสียงตอบรับที่ไม่ดีสักเท่าไหร่ จากการย้ายเข้ามาอยู่ในสโมสรใหม่ ก็จะสร้างความกดดันให้กับพวกเขาเหล่านั้นด้วย และแน่นอนว่าสำหรับนักกีฬาและความกดดันไม่ใช่สิ่งที่ดีแต่อย่างใด

     แม้ว่ามันจะทำให้พวกเขามีความพยายามในการพัฒนาตนเองแต่ส่วนใหญ่แล้วสิ่งที่ออกมานั้นมักตรงกันข้ามกันอยู่เสมอ กรณีดังกล่าวได้เกิดขึ้นกับนักเตะรายใหม่ประจำลิเวอร์พูลอย่างดาร์วิน นูเนซเช่นเดียวกัน หลายคนมีข้อกังขาว่าเพราะเหตุใดจึงตัดสินใจซื้อดาวยิงอาร์เจนติน่าผู้นี้มาด้วยราคาสูงสุดในประวัติศาสตร์ลิเวอร์พูล ทั้งที่เขานั้นก็ไม่ได้เป็นนักเตะระดับตำนานหรือมีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลกแต่อย่างใด และมันก็ทำให้แฟนบอลตั้งหน้าตั้งตารอที่จะเห็นพวกนักเตะระเบิดฟอร์มออกมาให้สมกับค่าตัว

     จนทำให้นักเตะได้รับความกดดันและไม่สามารถโชว์ฟอร์มออกได้เลยแม้แต่น้อยในการแข่งขันศึกวันแดงเดือดและการแข่งขันนัดอุ่นเครื่องพบกับคริสตัล พาเลซ อย่างไรก็ตามล่าสุดดาร์วินก็ได้พิสูจน์ตนเองได้สำเร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในการแข่งขันนัดอุ่นเครื่องพบกับแอร์เบไลป์ ซิกที่เจ้าตัวสามารถทำไปได้คนเดียวถึง 4 ประตูแบบเต็มๆ จนลิเวอร์พูลสามารถคว้าชัยชนะได้สำเร็จไปด้วยคะแนนกว่า 5 ประตูต่อ 0 เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมา

     กุนซือได้ออกมาเปิดเผยหลังจบการแข่งขันว่าหลังจากที่ส่งจอร์แดน เฮนเดอร์สันและเจมส์ มิลเนอร์ลงสนามเราก็สามารถสร้างโอกาสในการทำประตูได้เยอะขึ้นกว่าเดิม นอกจากโมฮาเหม็ด ซาลาห์ก็ยังมีดาร์วิน นูเนซที่สามารถทำลูกจุดโทษได้สำเร็จ เราคิดมาตลอดว่าหากทุ่มเงินซื้อนักเตะมาในราคาแพง แน่นอนว่าพวกเขาจะต้องรู้สึกกดดันอย่างแน่นอน

     พวกเขาเป็นมนุษย์ธรรมดาและในช่วงเริ่มต้นมันย่อมไม่ดีสักเท่าไหร่กับการอ่านข้อความบน Social Media เป็นเรื่องที่ไม่ฉลาดเลยแต่พวกเขาก็ยังคงทำกัน เมื่อเรารู้สึกเร่งรีบพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุด มันเป็นวิธีการที่ดีที่จะหยุดเสียงวิจารณ์ เขาเป็นกองหน้าที่ยอดเยี่ยมและแตกต่างจากที่เราเคยมี