เกมผ่านไปแค่ 2 นาที นิโคโล่ บาเรลล่า ใส่สกอร์ให้ อินเตอร์ ขยับออกนำ 1-0 แล้วสกอร์ไหลเป็น 2-0 ในนาทีที่ 15 จากการยิงของ เลาทาโร่ มาร์ติเนซ ทว่าหลังจากนั้น ฟิออเรนติน่า ได้คืนสองประตูรวด จากการยิงของ อาตูร์ คาบราล ในนาทีที่ 33 และอีกลูกจาก โจนาธาน อิโคเน่ ในนาทีที่ 60

     เข้าสู่นาที 73 เลาทาโร่ มาร์ติเนซ ใส่สกอร์ที่ 2 ของตัวเอง ส่งให้ อินเตอร์ ออกนำอีกครั้ง 3-2 ขณะที่ ฟิออเรนติน่า ตามตีเสมอ 3-3 จากการยิงของ ลูก้า โยวิซ ในนาทีสุดท้าย ทว่ากลับมาดราม่ามากกว่านั้น เมื่อ อินเตอร์ มาได้ประตูชัย ในนาที 90+4 จากการยิงของ เฮนริค มคิทาร์ยาน

     อินเตอร์ มิลาน ขึ้นที่ 7 ตามหลังท็อปทรี 3 คะแนน ฟิออเรนติน่า นั่งที่ 14

     หลังผ่าน 11 นัด อินเตอร์ มิลาน ที่กลับมาชนะ 3 นัดรวด เก็บเพิ่มเป็น 21 คะแนน (ชนะ 7 แพ้ 4) ขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 7 ตามหลังพื้นที่ท็อปทรี (ลาซิโอ้) 3 คะแนน โดยเกมนัดที่ 12 ลูกทีมของ ซิโมเน่ อินซากี้ มีคิวเปิดบ้านรับมือ ซามป์โดเรีย ในวันที่ 30 ตุลาคม แต่จะถูกคั่นด้วย เกมยูฟ่า แชมป์เปียนลีก พบกับ วิคตอเรีย พัลเซ่น ในวันที่ 26 ตุลาคม ซึ่งหากชนะจะเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายทันที

     ทางฝั่ง ฟิออเรนติน่า พวกเขาแพ้ 3 เสมอ 1 จาก 4 เกมหลัง ผ่าน 11 นัด เก็บได้ 10 คะแนน จอดป้ายที่อันดับ 14 ห่างโซนตกชั้น 5 คะแนน โดยเกมนัดที่ 12 ลูกทีมของ วินเซนโซ่ อิตาเลียโน่ มีคิวไปเยือน สเปเซีย ในวันที่ 30 ตุลาคม แต่จะถูกคั่นด้วย เกมยูโรป้า คอนเฟอเรนซ์ พบกับ อิสตันบูล บูยูคเซ็ค วันที่ 27 ตุลาคม

     แมนออฟเดอะแมตช์ เลาทาโร่ มาร์ติเนซ แนวรุก อินเตอร์ มิลาน

     เกมนี้ อินเตอร์ มิลาน ครองบอล 42% จ่ายบอล 344 ครั้ง โอกาสยิง 8 ครั้ง โดยที่ เลาทาโร่ มาร์ติเนซ เจ้าของ 2 สกอร์ พ่วงด้วย 1 แอสซิสต์ โอกาสยิง 3 สร้างโอกาส 2 ครั้ง ผลงานดีที่สุดในสนาม (9.6 คะแนน) ตามด้วย นิโคโล่ บาเรลล่า เจ้าของสกอร์ 1-0 โอกาสยิง กับ ชนะลูกโด่ง อย่างละ 2 ครั้ง (7.4 คะแนน) และ เฮนริค มคิทาร์ยาน เจ้าของประตูชัย 4-3 (6.9 คะแนน)

     ทางฝั่ง ฟิออเรนติน่า ครองบอล 58% จ่ายบอล 489 ครั้ง โอกาสยิง 10 ครั้ง โดยที่ นิโคล่า มิเลนโควิซ แอสซิสต์ 1 ครั้ง ชนะลูกโด่ง ตัดบอล เคลียร์บอล อย่างละ 4 ครั้ง ผลงานดีที่สุดในทีม (7.1 คะแนน) ตามด้วย โจนาธาน อิโคเน่ เจ้าของสกอร์ 2-2 โอกาสยิง 4 ครั้ง (7.1 คะแนน)