วิเคราะห์ตำแหน่งกัปตันแมนยูฤดูกาลหน้า

วิเคราะห์ตำแหน่งกัปตันแมนยูฤดูกาลหน้า

วิเคราะห์ตำแหน่งกัปตันแมนยูฤดูกาลหน้า การมาถึงของกุนซือคนใหม่อย่างเอริค เทน ฮากนั้นก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นมากมายในสโมสรแมนยู มีการตั้งคำถามว่านักเตะดาวดังกองหลังค่าตัว 80 ล้านอย่างแฮร์รี่ แม็คไกวร์จะยังได้ทำหน้าที่เป็นกัปตันทีมต่อไปในฤดูกาลหน้าหรือไม่

     หลังจากที่ในฤดูกาลที่ผ่านมาเขาไม่สามารถทำผลงานออกมาได้ดีไม่ว่าจะเป็นในฐานะนักเตะหรือกัปตันทีมก็ตาม มีนักเตะอีกหลายคนในสโมสรที่มีความเหมาะสมมากกว่าเขาทั้งในด้านผลงานหรือแม้แต่ภาวะความเป็นผู้นำ วันนี้เราจึงจะพาทุกคนมาวิเคราะห์กันว่าในฤดูกาลหน้าใครที่จะสามารถคว้าปลอกแขนไปครองได้สำเร็จ 

     แคนดิเดตกัปตันทีม ในตอนนี้แฮร์รี่ แม็คไกวร์ยังคงดำรงตำแหน่งเป็นกัปตันทีมเนื่องจากยังไม่มีการออกมาประกาศชัดเจนว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ อย่างไรก็ตามนอกจากเขาแล้วยังมีแคนดิเดตที่น่าสนใจอีกมากมายที่น่าจะมาทำผลงานในตำแหน่งนี้ได้ดีไม่ว่าจะเป็นดาบิด เด เคอา ผู้รักษาประตูคนสำคัญของแมนยูที่หากขาดเขาไปรับรองว่าแพ้ยับเยินหนักกว่านี้อย่างแน่นอน

     หรือบรูโน่ แฟร์นันด์สนักเตะที่เต็มไปด้วยความเป็นผู้นำและเคยรับผิดชอบหน้าที่นี้มาแล้วในบางเกม ยังไม่รวมไปถึงนักเตะรางวัลบัลลงดอร์ 5 สมัยอย่างโรนัลโด้ที่ช่วยให้ทีมยังคงสามารถจบที่อันดับ 6 บนตารางได้สำเร็จ แต่อย่างไรก็ตามเชื่อได้เลยว่าแม็คไกวร์จะไม่มีทางมอบปลอกแขนของตัวเองให้กับใครอย่างแน่นอนหากนายใหญ่ไม่ตัดสินลงมาโดยตรง เนื่องจากฤดูกาลที่ผ่านมาเขาค่อนข้างเคร่งเครียดในการรักษาปลอกแขนเอาไว้ไม่น้อยเช่นเดียวกัน

     โรนัลโด้สวมบทเป็นคันโตน่า หลายคนมองว่าการเลือกกัปตันทีมคนใหม่ของกุนซืออย่างเอริค เทน ฮากน่าจะสามารถสะท้อนให้เห็นถึงสไตล์การคุมทีมของเขาได้อย่างชัดเจนมากขึ้น หากเขายังคงให้แม็คไกวร์ทำหน้าที่ต่อไปนับว่าเป็นแนวทางที่ง่ายที่สุดเพื่อหลีกเลี่ยงการทำให้นักเตะรู้สึกอกหักเพราะเชื่อว่าเขานั้นได้รับความนิยมจากเพื่อนร่วมทีม

     ไม่เพียงเท่านั้นมันยังเป็นการปกป้องนักเตะจากการเมืองในห้องแต่งตัวอีกด้วย แต่วิธีการดังกล่าวต้องมั่นใจว่าโรนัลโด้จะรู้สึกว่าตัวเองยังคงเป็นคนสำคัญในทีมเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตามหากกุนซือต้องการที่จะเค้นฟอร์มเก่งของแม็คไกวร์ให้กลับมา เขาก็จำเป็นที่จะต้องเอาปลอกแขนให้กับคนอื่นเช่นเดียวกันเพื่อลดความกดดันของนักเตะลง การมอบปลอกแขนให้กับโรนัลโด้จะกระตุ้นให้เขามีความเป็นผู้นำมากขึ้นเหมือนกับสมัยเอริค คันโตน่า

ข่าวฟุตบอลต่างประเทศ :: ข่าวฟุตบอลต่างประเทศวันนี้

เว็บข่าวกีฬา :: ข่าวกีฬาวันนี้

เว็บข่าวกีฬาหลัก : ข่าวฟุตบอลวันนี้