การมาถึงของกุนซือคนใหม่ในสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดนั้นเรียกได้ว่าสามารถกระตุ้นบรรดานักเตะที่ฤดูกาลที่ผ่านมาเล่นเหมือนคนไม่เอาอะไรแล้วให้กลับมาสู้ได้อีกครั้งอย่างน่าเหลือเชื่อ ต้องยกความดีความชอบให้กับอดีตกุนซือประจำอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัมอย่างเอริค เทน ฮากที่สามารถสร้างความหวังและความน่าเชื่อถือให้เกิดขึ้นกับนักเตะแมนยูที่เต็มไปด้วยความมั่นใจในตัวเองและความสามารถได้สำเร็จ

     เนื่องจากคุณซื้อหลายต่อหลายคนที่ผ่านมามักประสบปัญหาอยู่เสมอในการจัดการนักเตะ เพราะเราต้องไม่ลืมว่าแมนยูนั้นได้รวบรวมนำเอานักเตะคนดังจากหลายสโมสรมาไว้ในที่เดียวกัน แต่ละคนล้วนแล้วแต่กระหายความสำเร็จและมีสไตล์การเล่นที่แตกต่างกันออกไป การจะรวบรวมพวกเขาให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยแม้แต่น้อยโดยเฉพาะหลังจากที่มีข่าวลือถูกปล่อยออกมาว่าในฤดูกาลที่ผ่านมาบรรยากาศในห้องแต่งตัวของแมนยูไม่ดีสักเท่าไหร่ นักเตะมีการแบ่งพรรคแบ่งพวกกัน

     แต่อีกหนึ่งปัญหาที่สำคัญก็คือกุนซือที่ผ่านมาไม่สามารถบริหารนักเตะได้ดีพอทำให้นักเตะมากฝีมือบางคนไม่ได้รับโอกาสในการลงสนามเป็นตัวจริงเท่าที่ควร ทำให้ต้องเสียนักเตะเหล่านี้ไปแบบยืมตัวบ้างหรือขายออกบ้างแล้วแต่คน โดยหนึ่งในนักเตะที่ประสบปัญหาเรื่องการลงสนามเป็นตัวจริงมากที่สุดอีกคนหนึ่งก็คือดอนนี่ ฟาน เดอ เบค นักเตะลูกหม้อจากอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัมซึ่งเป็นสโมสรเก่าของกุนซือคนใหม่ ทำให้การมาถึงของเทน ฮากกระตุ้นให้เขานั้นมีความพยายามมากขึ้นกว่าเดิมและคาดหวังว่าจะถูกเลือกเป็นตัวจริงในที่สุด 

     ดอนนี่ ฟาน เดอ เบคเป็นนักเตะที่ครั้งหนึ่งเคยร่วมงานกับเอริค เทน ฮากสมัยที่คู่ต่างอยู่ในอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัมร่วมกัน ด้วยความที่นักเตะสามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมทำให้แมนยูตัดสินใจดึงตัวเขามาด้วยค่าตัวกว่า 35 ล้านปอนด์ในปี 2020 นับตั้งแต่ตอนนั้นนักเตะทีมชาติฮอลแลนด์ผู้นี้ก็ไม่เคยระเบิดฟอร์มที่น่าประทับใจออกมาได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว ทำให้เขาไม่ได้รับโอกาสในการลงสนามเป็นตัวจริงสักเท่าไหร่และสุดท้ายก็ถูกส่งไปอยู่กับเอฟเวอร์ตันแบบยืนตัวตลอดทั้งฤดูกาลที่ผ่านมาแต่ก็ยังไม่สามารถงัดฟอร์มตัวเองกลับมาได้อีก นอกจากนี้เขายังมีอาการบาดเจ็บเพิ่มเติมอีกต่างหาก

     สุดท้ายแล้วนักเตะต้องทำมันด้วยตัวเอง ต้องรับผิดชอบฟอร์มการเล่นของตัวเอง ดอนนี่เป็นนักเตะที่มีความสามารถและตนเองก็เคยเห็นมาแล้ว ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังคงต้องพิสูจน์ตัวเองต่อไปและเราสามารถยืนยันได้ว่าไม่มีนักเตะคนไหนที่จะได้รับอภิสิทธิ์เหนือไปกว่าใครทั้งสิ้น หากทำผลงานออกมาไม่ดีเราก็แค่ไม่ใช้งาน